เครียด! ผอมนะ แต่กินเท่าไหร่ก็ลงไปอยู่ที่ ‘พุง’ ต้องแก้อย่างไรดี?

ใครเป็นบ้าง? พอชั่งน้ำหนักแล้ว น้ำหนักตัวอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานตามสัดส่วนที่เหมาะสม แต่ทำไมดันมี ‘พุง’ กันล่ะ แท้จริงแล้วคุณอาจจะจัดอยู่ในกลุ่ม “Skinny Fat” คือคนที่มีน้ำหนักน้อย หรือน้ำหนักอยู่ในเกณฑ์ปกติ แต่กลับมีมวลกล้ามเนื้อน้อย ไขมันเยอะ มองดูภายนอกแล้วดูไม่ใช่คนอวบอ้วน แต่ลงพุงซะงั้น

ผอมมีพุงเกิดมาได้ยังไงกันแน่?

แม้ว่าคนที่มีน้ำหนักตัวตามมาตรฐาน BMI หรือมีน้ำหนักตามสัดส่วนที่เหมาะสมแล้ว สัดส่วนที่แขน ขาและหน้าก็ไม่ได้อ้วน แต่ทำไมเราถึงมีพุงกันได้นะ ความจริงแล้วเราอาจจะกำลังลดความอ้วนหรือควบคุมน้ำหนักตัวด้วยวิธีที่ผิดอยู่น่ะสิ! เพราะพุงที่ว่านี้เกิดจากหลายสาเหตุเราลองมาดูกันว่า เราอยู่ในแบบไหนกัน…

อาหารหวาน ต้นตอของความอ้วนลงพุงอย่างแรกเลยคืออาหารที่เรารับประทานเข้าไป แม้ว่าเราจะควบคุมอาหารแล้ว แต่การที่ยังชอบทานอาหารหวานจำพวก คุ้กกี้ มัฟฟิ่น ซีเรียล ขนมขบเคี้ยว เค้ก ฯลฯ อาหารเหล่านี้มีไขมันทรานส์อยู่เยอะมาก ซึ่งไขมันนี้แหละเป็นไขมันหลักที่จะสะสมอยู่ตามรอบๆ เอวของเราจนกลายเป็นห่วงยางที่แก้ไม่หายซักที

เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีหลายงานวิจัยที่พบว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เช่น เบียร์ วิสกี้ วอดก้า ค็อกเทล หรือไวน์ จะส่งผลให้ไขมันไปสะสมตรงช่องท้องได้มาก ยิ่งเราดื่มมากเท่าไหร่โอกาสที่ไขมันจะเข้าไปสะสมตามช่วงเอวก็มากขึ้น

การออกกำลังกายที่ผิดวิธี ว่ายน้ำ วิ่ง กระโดดเชือก ต่อยมวย ไม่ว่าจะออกกำลังกายหนักแค่ไหน ทำไมยังไม่เห็นสักที ก็เพราะว่าการออกกำลังกายที่มากเกินไปของคุณกำลังไปทำลายกล้ามเนื้อมากกว่าการไปเอาไขมันออกจากพุงมากกว่า เพราะการออกกำลังกายที่มากเกินไปอาจจะไปทำให้ร่างกายดึงมวลกล้ามเนื้อมาใช้เผาผลาญระหว่างการออกกำลังกายมากกว่าการไปดึงไขมันมาใช้น่ะสิ และเมื่อเรามีกล้ามเนื้อน้อยลงเท่าไหร่ การเผาผลาญระหว่างวันของเราก็จะทำได้น้อยลง เมื่อการเผาผลาญน้อยลง ไขมันก็มีโอกาสสะสมมากขึ้น

การอดอาหาร วิธียอดนิยมของผู้หญิงไทยที่ต้องบอกเลยว่า ผิด! การอดอาหารนอกจากจะทำให้ร่างกายรู้สึกโหย หากเราปรับเปลี่ยนการรับประทานแบบกระทันหันแล้ว การอดอาหารหรือการทานอาหารที่น้อยเกินไปจะทำให้ร่างกายได้รับพลังงานที่ใช้ต่อวันน้อยเกินไป จนต้องไปใช้พลังงานจากมวลกล้ามเนื้อของเรา แต่ไม่ได้ใช้ไขมันส่วนเกินตามร่างกาย ไขมันก็เลยยังสะสมอยู่ตามพุงนั่นเอง

แต่เรามีวิธีเอาพุงออกไปได้ วิธีง่ายๆ เลยก็คือ การเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงการทานอาหารหวาน เพราะรับประทานอาหารเป็นตัวช่วยสำคัญที่จะช่วยให้เราสามารถลดห่วงยางที่ติดอยู่ตามพุงเราได้เลย อาหารที่มีประโยชน์ที่ว่านี้จะต้องไม่ใช้อาหารแช่แข็ง อาหารฟาสต์ฟู้ด แต่เป็นอาหารคลีนที่ปรุงสุกสดใหม่เลย เพราะอาหารแช่แข็งหรือฟาสต์ฟู้ดมักมีไขมันทรานส์ที่เยอะ การรับประทานอาหารคลีน เน้นอาหารที่มีโปรตีนจะช่วยให้เราได้เพิ่มกล้ามเนื้อ และไขมันที่ดีเข้าไปในร่างกาย เพราะฉะนั้นการลดอาหารหรืออดอาหารก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป เพราะเมื่อเราทานอาหารที่มีโปรตีนสูงเข้าไปและเพียงพอต่อการใช้พลังงานในแต่ละวันแล้ว การดึงพลังงานจากมวลกล้ามมาใช้จะน้อยลง การเผาผลาญเราจะกลับมาเป็นปกติ

แต่อย่างไรก็ตามการออกกำลังกายก็ยังเป็นสิ่งจำเป็นด้วยเช่นกัน การออกกำลังกายด้วยการวิ่ง ว่ายน้ำ ดีอยู่แล้ว แต่หากเราลองเปลี่ยนการออกกำลังมาเป็นการสร้างกล้ามเนื้อเพื่อช่วยให้ร่างกายเผาผลาญได้มากขึ้นเช่น การเล่นเวทเทรนนิ่ง บอดี้เวท หรือการออกกำลังกายแบบ HIIT (High Intensive Interval Training) ก็จะช่วยให้ร่างกายเผาผลาญได้ดีมากเช่นกัน อย่ากังวลว่าการออกกำลังกายแบบนี้จะเอาไขมันออกได้น้อย แต่เรากลับได้กล้ามเนื้อมาช่วยเผาผลาญพลังงานส่วนเกินได้มากขึ้น ไขมันที่สะสมก็จะน้อยลงตามเอง

ที่มา โรงพยาบาลเปาโล พหลโยธิน