นางนกต่อ เล่านาทีแฟนใหม่ซ้อมอดีตแฟน เตะจนกระอักเลือด ฝังดินทั้งเป็น ด้านตำรวจเร่งล่าไอ้โอมือฆ่า พบพกปืนติดตัวระหว่างหลบหนี
11 มี.ค. 2562 ความคืบหน้ากรณีฆ่าฝังดินนายชัยประสิทธิ์ บุญเลิศ อายุ 34 ปี พนักงานคลังสินค้า สถานีส่งน้ำสุวรรณภูมิ ทิ้งศพบริเวณป่าหลังโรงเรียนแห่งหนึ่ง หมู่ 3 ต.คลองบ้านโพธิ์ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา โดยน.ส.แปทิพย์ โลกรัก หรือปลา อายุ 21 ปี ได้เข้ามอบตัวและให้การว่า มีผู้ร่วมก่อเหตุ 8 คน
นางสาวแปทิพย์ หญิงสาวนกต่อ รับสารภาพว่า คดีนี้มีผู้ร่วมก่อเหตุทั้งหมดประมาณ 8 คน โดยก่อนหน้านี้ตนเองทำงานในบริษัทเดียวกับผู้ตายและเคยคบหากันอยู่ได้ไม่นานตนทราบว่าผู้ตายมีครอบครัวแล้วจึงเลิกคบกันไปและลาออกจากงาน จนกระทั่งตนเองมารู้จักและคบหากับ นายสมศักดิ์ เล็ดลอด หรือ โอ อายุ 29 ปี ได้ประมาณเดือนเศษ
“วันเกิดเหตุคือวันที่ 2 ก.พ. ที่ผ่านมา ผู้ตายได้ทักแชทเฟซบุ๊กมาในเฟสของตน ซึ่งขณะนั้นโทรศัพท์ของตนอยู่ที่นายโอ แฟนใหม่ จึงทำให้นายโอ เห็นข้อความดังกล่าว นายโอจึงทำทีตอบข้อความว่าเป็นตนเองพูดคุยกับผู้ตาย และได้นัดผู้ตายให้ออกมาหาที่บ้านของนายโอภายในชุมชนหลังวัดมงคลนิมิต ตำบลบางเสาธง อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ จนกระทั่งผู้ตายเลิกงานประมาณ 18.00 น.ของวันที่ 2 ก.พ. จึงขับรถหวังมาหาตนที่บ้านพักตามที่แชตนัดกันไว้”
“ซึ่งขณะนั้นตนเองอยู่ในบ้านพักกับนายโอ เมื่อผู้ตายเดินทางมาถึงจึงเรียกเข้ามาภายในบ้านโดยที่ผู้ตายไม่ทราบว่านายโอยืนรออยู่ ทันทีที่ผู้ตายเข้ามาถึงในบ้าน นายโอจึงเข้าไปพูดคุยสอบถามว่ามาทำอะไรและนายโออาศัยจังหวะที่ผู้ตายเผลอ เตะเข้าที่ข้อพับขาของผู้ตายจนล้มทั้งยืน ก่อนจะเตะซ้ำเข้าที่ใบหน้าและลำตัวอีกหลายครั้งจนผู้ตายกะอักเลือด และเอ่ยปากร้องขอชีวิตหลายครั้ง ขณะนั้นตนเองยอมรับว่าได้แต่ยืนมองนายโอทำร้ายผู้ตายโดยไม่กล้าเข้าไปช่วยหรือห้ามปราบเนื่องจากกลัวว่าจะถูกนายโอทำร้ายด้วย”
“หลังจากที่นายโอลงเท้าเตะอย่างหนำใจกว่า 10 นาที จึงโทรตามนายต้อม ซึ่งเป็นลูกน้องของนายโอ มาช่วยจับมัดมือผู้ตายและขังไว้ภายในห้องโดยที่ให้นายต้อมยืนเฝ้าผู้ตายเพื่อป้องกันการหลบหนี จนกระทั่งเวลาประมาณ 21.00น. นายโอย้อนกลับมาอีกครั้งและลงเท้าเตะซ้ำอีกหลายครั้ง จนผู้ตายกะอักเลือดและหายใจรวยริน จากนั้นนายโอจึงโทรตาม นายอูและนายเป้ ให้มาช่วยใช้ผ้าห่อร่างผู้ตาย ซึ่งขณะนั้นยังหายใจรวยริน หลังจากนำผ้ามาห่อเสร็จนายโอจึงโทรหายืมรถกับคนรู้จักซึ่งเป็นรถกระบะตอนเดียวตู้ทึบ และให้ตนเองไปขับรถกระบะคันดังกล่าวมาโดยจ่ายค่าจ้างจำนวน 2 พันบาทกับเจ้าของรถ”
“หลังจากได้รถจึงย้อนกลับมาที่บ้านเกิดเหตุและนายโอให้นายอูและนายเป้ ช่วยกันยกร่างของผู้ตายขึ้นใส่กระบะท้ายรถพร้อมกับรถจยย. และขับไปที่ริมถนนสายวัดบัวโรย ก่อนจะนำรถจยย.โยนทิ้งข้างทางทำทีเหมือนกับรถเกิดอุบัติเหตุส่วนร่างของนายตั้มซึ่งขณะนั้นยังไม่เสียชีวิต นายโอได้ให้นายอูและนายเป้ช่วยกันยกร่างที่ห่อด้วยผ้าไปโยนหมกไว้ในพงหญ้าซึ่งไม่ไกลจากจุดที่ทิ้งจยย.ก่อนจะพากันแยกย้ายหลบหนี”
จนกระทั่งวันรุ่งขึ้นทราบข่าวการพบรถและการแชร์ตามหานายตั้ม นายโอจึงชักชวนตนให้ตะเวนหาที่ทิ้งศพนายตั้ม ตามสถานที่ต่างๆ แต่หาไม่ได้ นายโอจึงโทรหา นายเก่งและนายบาส ที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกันให้ช่วยหาที่ฝังศพให้ จนกระทั่งช่วงเย็นนายเก่งได้แจ้งว่าได้สถานที่ฝังศพแล้วอยู่ในซอยวัดเขาดินเขต อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา นายโอจึงนัดกับนายเก่งและนายบาสให้มาเจอกันช่วงดึกของวันที่ 4 ก.พ.แถวนิคมอุตสาหกรรมเวลโกล์ จนกระทั่งมาเจอกันตามนัดนายโอจึงให้ขึ้นรถเก๋งฮอนด้าซีวิคของนายโอและขับมาส่งตนที่บ่อปลาของนายตี่ซึ่งใกล้กับจุดฝังศพ
ส่วนบ่อปลานั้นนายเก่งและนายโอเคยไปและรู้จักกับเจ้าของบ่อปลา เมื่อเดินทางไปถึงนายโอได้ไปหาจอบที่คันบ่อปลาซึ่งขณะนั้นไม่มีคนเฝ้า ก่อนจะให้นายเก่งและนายบาสช่วยกันขุดหลุมลึกประมาณ 1 เมตร หลังจากขุดหลุมเสร็จนายโอนายเก่งและนายบาสพร้อมกับตนได้พากันขับรถเก๋งย้อนกลับมาจุดที่ทิ้งร่างของนายตั้มไว้ เพื่อให้นายเก่งและนายบาสช่วยกันนำศพของนายตั้มขึ้นรถเก๋งเพื่อมาโยนทิ้งในหลุมที่เตรียมไว้และฝังดิน ก่อนจะพากันหลบหนี
หลังร่วมกันก่อเหตุนายโอได้พาตนหนีไปตามจังหวัดต่างๆ จนกระทั่งติดต่อกับน้องสาวของนายโอได้ คือนางสาวมด จึงนัดให้น้องสาวของนายโอมารับก่อนถึงโคราชเพื่อเตรียมหลบหนี โดยที่นายโอจะให้นางสาวมด เป็นคนขับรถนำทางล่วงหน้าเพื่อดูว่าในระหว่างทางนั้นมีด่านตรวจหรือไม่จนกระทั่งนางสาวมดเจอด่านตรวจจึงโทรกลับมาหานายโอให้เปลี่ยนเส้นทางหลบหนี เพื่อหวังมุ่งหน้าไปที่จังหวัดอำนาจเจริญ แต่ระหว่างทางหลบหนีนั้น รถเก๋งฮอนด้าซีวิคที่ใช้ขนศพเกิดเสีย นางสาวมดจึงให้จอดรถทิ้งไว้ข้างทางก่อนจะหารถคันใหม่มาให้ โดยเป็นรถโตโยต้าวีออสสีดำและนายโอได้ทำการดัดแปลงป้ายทะเบียนก่อนจะขับมุ่งหน้าไปที่จังหวัดอำนาจเจริญ ซึ่งเป็นสถานที่มารดาพักอาศัยอยู่ แต่นายโอไม่เข้าพักบ้านมารดาและให้นางสาวมดหาที่พักให้ระหว่างหลบหนี ซึ่งในระหว่างหลบหนีนั้นนายโอได้เสพอย่างบ้าอย่างหนักจนประสาทหลอนและพกอาวุธปืนติดตัวตลอดเวลา
จนกระทั่งช่วงเช้าของวันที่ 9 มีนาคม 2562 ตนเองอาศัยจังหวะที่นายโอหลับจึงแอบหลบหนีและขังนายโอไว้ในห้องพักในรีสอร์ทแห่งหนึ่งในจังหวัดอำนาจเจริญก่อนจะรีบเดินทางกลับมายังบ้านพักที่ซอยลาซานด้วยรถทัวร์และเช้าวันที่ 10 มี.ค. จึงให้มารดาติดต่อทางตำรวจเพื่อขอมอบตัว
อย่างไรก็ตาม คดีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้แล้วทั้งหมด 5 คน ยังเหลือติดตามตัวอีก 3 คนประกอบด้วย นายสมศักดิ์ เล็ดลอด หรือโอ (มือฆ่า), นายถนอมศักดิ์ ดีสละ หรือ ต้อม ทำหน้าที่มัดมือผู้ตายและเฝ้าหน้าห้องไม่ให้หลบหนี และ นางสาวปิยะพร เล็ดลอด หรือมด น้องสาวของนายโอ ทำหน้าที่ช่วยเหลือหลบหนี
จากการตรวจสอบประวัติของนายโอ พบว่าเป็นนักค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นและค้ายาเสพติดมานานเกือบสิบปีที่ผ่านมาเคยเข้าออกคุกมาแล้วหลายครั้งในข้อหายาเสพติดและมักจะพกอาวุธปืนติดต่อตลอดเวลา โดยจะมีนิสัยอันธพาลและโมโหร้ายในบรรดาลูกน้องที่เดินยาหรือรู้จักคุ้นเคยกับนายโอจะเกรงกลัวนายโอเป็นอย่างมากการก่อเหตุในครั้งนี้จึงมีผู้ร่วมขบวนการซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นลูกสมุนของนายโอทั้งหมด