พ่อแม่ร้องกองปราบ หวั่นลูกสาวถูกแฟนหนุ่มฆ่า : เขย่าข่าวเข้ม 15 ก.ย.60 (มีคลิป)

วันนี้ที่กองปราบปราม พ่อแม่ของ น.ส.นันทิยา แสงอุไร เดินมาร้องขอความเป็นธรรมให้เจ้าหน้าที่ช่วยสืบหาลูกสาวที่หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยนานเกือบ 3 ปีแม้ว่าจะไม่เหลือความหวังแล้ว ว่าลูกสาวอาจยังมีชีวิตอยู่ แต่พ่อแม่เกรงว่า อาจถูกแฟนหนุ่มชาวอิสราเอลฆ่าปิดปาก ซึ่งอดีตแฟนรายนี้ได้ตกเป็นผู้ต้องหาฆ่าโบกปูนอดีตตำรวจอิสราเอลด้วย วอนตำรวจเร่งตรวจสอบ โดยเฉพาะหลักฐานสำคัญที่อยู่ในโน๊ตบุ๊คที่ยังถูกตำรวจ สภ.บางบัวทอง ตรวจยึดเอาไว้ ไปตามตามรายละเอียดจาก คุณพิมพ์กมล พิจิตรศิริ ผู้สื่อข่าวไบรท์นิวส์ รายงานจากกองบังคับการปราบปราม

นายอนันต์ แสงอุไร และ น.ส.นภา ทิมเย็น พ่อและแม่ของ น.ส.นันทิยา แสงอุไร พร้อมด้วย นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ หลังนางสาวนันทิยา หายตัวไปและขาดการติดต่อตั้งแต่ปี 58 โดย น.ส.นันทิยา เคยอยู่กินกับแฟนหนุ่มชาวอิสราเอล ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดีฆ่านายตำรวจอิสราเอลและอำพรางศพ โดยการนำศพไปโบกปูนเมื่อปี 59 จนกลายเป็นข่าวโด่งดังในช่วงที่ผ่านมา

นายอนันต์ กล่าวว่า ครั้งสุดท้ายที่เจอบุตรสาว คือวันที่ลูกสาวมาเอาถังแก๊สที่บ้าน สังเกตุเห็นลูกสาวโกนศรีษะ จึงถามไป ลูกสาวก็บอกว่า ถูก นายซีม่อน จับโกนศีรษะและถูกบังคับให้เข้านับถือลัทธิหนึ่ง ตนเองก็ไม่ทราบว่าเป็นลัทธิอะไร ตั้งแต่นั้นก็ไม่ได้คุยกันอีก ต่อมาได้ไปแจ้งความที่ สภ.บางบัวทอง คดีก็ยังไม่มีความคืบหน้า ส่วนหลักฐานสำคัญคือ คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คของ นายซีม่อน เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้อายัดโน๊ตบุ๊คไว้ เชื่อว่ามีหลักฐานสำคัญอยู่ คาดว่าน่าจะเป็นภาพจากกล้องวงจรปิด ซึ่งตำรวจ สภ.บางบัวทอง บอกกับตนเองว่า ต้องมีผู้เชี่ยวชาญจากประเทศอิสราเอลมาช่วยถอดรหัสแปลภาษาเพราะเป็นภาษาอิสราเอลทั้งหมด แต่เวลาผ่านมาจนถึงขณะนี้ รวมแล้วกว่า 2 ปีก็ไม่มีความคืบหน้า ซึ่งก่อนหน้านี้ ตนเองก็ถาม นายซีม่อน ว่าลูกสาวอยู่ที่ไหน นายซีม่อน อ้างว่า น.ส.นันทิยา ถูกจับกุมตัวอยู่ที่ประเทศลาว ครั้งต่อมาก็ยังอ้างว่า น.ส.นันทิยา เสียชีวิตแล้วด้วยโรคมะเร็ง ส่วนตัวไม่มีความหวังว่าลูกสาวยังมีชีวิตอยู่ เพียงแค่อยากเจอศพลูกสาวเท่านั้น

ขณะที่ นายรณณรงค์ ยอมรับว่าคดีนี้ ผู้ต้องหามีประวัติไม่ธรรมดา เพราะเคยพัวพันกับคดีฆ่าหั่นศพมาแล้วหลายศพ อีกทั้งลูกสาวของ นายอนันต์ หายตัวไปนานกว่า 2 ปี ซึ่งจนถึงขณะนี้ไม่มีความคืบหน้าเกี่ยวกับเบาะแส พร้อมกับอยากให้นำโน้ตบุ๊คที่บันทึกภาพมาตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง จึงต้องขอให้กองปราบปรามเข้ามาดูแลคดีนี้

สำหรับการหาพยานหลักฐาน เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบได้ตรวจสอบสำนวนคดีที่ผู้เสียหายไปแจ้งความไว้ที่ สภ.บางบัวทอง และจะประสานนำคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ้คมาเปิดเครื่องอีกครั้ง อย่างไรก็ตามหลักฐานดังกล่าวถูกส่งให้ศาลพิจารณาเป็นหลักฐานในคดีแล้ว

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า