“นพ.ยอร์น” เปิดใจ ขอรับผิดสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ไม่ได้ตั้งใจชนรปภ. พร้อมไม่ตอบสื่อเรื่องแอลกอฮอล์ ด้านตำรวจ เผย ตั้งข้อหาเมาแล้วขับ เตรียมออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหา
ภาพจากคลิปวิดีโอเป็นภาพที่รถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สีขาว คันหนึ่งขับรถชน รปภ.จนล้มลงด้านหน้ากับพื้นถนน จากนั้นรถคันดังกล่าวไม่ได้หยุดรถลงมาดูคนเจ็บแต่ยังคงขับต่อไปอีกประมาณ 30 เมตรโดยขับทับไปบนร่างของ รปภ.และลากติดล้อด้านหลังไปพร้อมกับรถ
ล่าสุดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 13 พ.ย.60 พญ.พรรณพิมล วิปุลากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะโฆษกกระทรวงสาธารณสุข ได้นำ นพ.ยอร์น จิระนคร แพทย์ที่ขับรถชน เปิดโต๊ะแถลง
นพ.ยอร์น กล่าวว่า ตนได้ถูกตีตราว่าเป็นฆาตกร โดยขอยอมรับในสิ่งที่กระทำ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ตั้งใจให้เกิดขึ้น ส่วนเรื่องเหตุการณ์ขณะชนได้ให้ข้อมูลกับทางตำรวจเรียบร้อยแล้ว และได้ยืนยันกับทางญาติแล้วว่า ยินดีรับผิดชอบกับญาติทุกอย่าง ซึ่งตนเองเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ต้องขออภัยกับทางญาติ ทั้งนี้การออกมาสู้กับข้อเท็จจริง มาเผชิญกับความจริง เป็นเรื่องที่ควรกระทำ
ส่วนประเด็นดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือไม่นั้น ได้ให้ข้อมูลกับตำรวจไปแล้ว เรื่องของคดีให้เป็นเรื่องของคดี ตนยืนยันได้จอดรถช่วย ไม่ได้หนี โดยประตูที่เกิดเหตุ ปิดประมาณ 2 ทุ่ม ซึ่งมืดมองไม่เห็น มีรถคันหน้าเข้าไปก่อน ส่วนเรื่องความเร็วตนไม่แน่ใจ และตนคิดว่าชนประตู ไม่ทราบว่ามีคนอยู่ด้านใต้ พร้อมยืนยันได้หยุดรถให้ผู้เกี่ยวข้องมาช่วย ให้รถฉุกเฉินมาช่วย ตนไม่ได้เป็นคนโทรแจ้ง โดยสิ่งที่อยากทำให้เร็วที่สุดคือการนำส่งโรงพยาบาล
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่กระทรวงสาธารณสุข บริเวณ ประตู 2 ด้านโรงพยาบาลบำราศนราดูร ซึ่งเป็นจุดที่ นพ.ยอร์น จิระนคร รองผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขและเป็นสาธารณสุขนิเทศน์ เขต 12 ขณะเมาสุราขับรถยนต์เก๋ง ฮอนด้า อเมซ สีขาว ทะเบียน 2 กฒ- 7552 กทม. พุ่งชนประตูขณะนายสมชาย ยามดี อายุ 22 ปี รปภ.ของกระทรวงกำลังปิดประตู ช่วงเวลา 20.00 น. ของคืนวันศุกร์ที่ 10 พ.ย. 60 เพราะเป็นเวลาเปิด-ปิด ประตูตามเวลาตั้งแต่ 05.00น.-22.00 น. ก่อนที่รถเก๋งของ นพ.ยอร์น จะลากร่างของนายสมชายไปไกลกว่า 30 เมตร จนแน่นิ่ง เลือดไหลเป็นทางยาวไปถึงป้อมยาม
หลังเกิดเหตุ ร.ต.ท.สุวัฒน์ เสน่หา รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองนนทบุรี รีบรุดไปยังจุดเกิดเหตุพร้อมนำตัว นพ.ยอร์น มาสอบปากคำที่โรงพักแต่ผู้ต้องหาไม่ยอมให้เป่าแอลกอฮอลล์ โดยอ้างว่าเป็นสิทธิ์ของตนเอง อีกทั้ง รปภ.คนเจ็บเองก็ยังให้ปากคำไม่ได้ ก่อนที่ นพ.ยอร์น จะเดินทางกลับไปในเวลาต่อมา
นายเอก ขอสงวนนามสกุล อายุ 25 ปี รปภ.ประตู 2 จุดเกิดเหตุ เปิดเผยว่านายสมชาย ซึ่งประจำอยู่ประตู 3 เป็นเพื่อนสนิทกับตนเอง คืนนั้นตนติดธุระออกตรวจภายในกระทรวงนายสมชายเห็นเป็นเวลาที่ประตูได้เวลาปิดแล้วจึงเดินจากป้อมประตู 3 มาปิดประตู 2 แทนตน ไม่คิดว่าจะกลายเป็นเคราะห์ร้ายกับเพื่อน “คนขับทั้งเมาทั้งเป็นถึงหมอใหญ่มีชื่อเสียง พวกตนก็หวังเพียงสิ่อจะช่วยเป็นกระบอกเสียงให้ความเป็นธรรมกับเขาด้วย”
ขณะที่นายดำรงค์ฤทธิ์ จิตถาวรมณี คนขี่จยย.รับจ้างในกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งผ่านมาในช่วงที่เกิดเหตุและได้ถ่ายภาพรวมทั้งคลิปไว้ได้ เปิดเผยว่า ตนเห็น รปภ.กำลังปิดประตู แล้วก็มีรถหมอคนนี้ขับมาด้วยความเร็วสูงไม่ยอมเบรคเลย ชนทั้งประตูทั้งคน จนลากไปอย่างที่เห็นในคลิป จากนั้นคนขับที่อยู่ในสภาพเมาก็ลงมาดูแล้วตำรวจก็มาแต่คนขับพูดว่าเขามีสิทธิ์ไม่ให้เป่าแอลกอฮอลล์ ไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้รถ รู้แต่เขาเป็นหมอใหญ่ในกระทรวง ไม่น่าจะทำแบบนี้
ด้านความคืบหน้าทางคดี ได้เข้าพบ พ.ต.อ.ปัณณพัฒน์ เดชโชติพิสิฐ ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี ทราบว่าคดีนี้ทางพนักงานสอบสวนรับคำร้องทุกข์ไว้แล้วเป็นคดีการจราจรทางบก ทางเราต้องมีการสอบสวนและเรียกตัวผู้ขับขี่มาดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหา ด้านการตรวจแอลกอฮอล์นั้นทางพนักงานสอบสวนมีการเรียกให้ผู้ขับขี่ ทางผู้ขับขี่ไม่ยินยอมให้ตรวจ ให้สันนิษฐานตามกฎหมายได้ว่าให้ถือว่าเมา จากนั้นแจ้งข้อกล่าวหาด้วย เบื้องต้นคดีนี้ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่าขับขี่รถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส และขับขี่รถในขณะเมาสุรา แต่ถ้าที่ปรากฎตามคลิปมีการขับทับจะมีการสอบสวนพยานประกอบ ถ้านอกเหนือจากความผิด พ.ร.บทางบกแล้ว และมีเจตนาทางด้านอื่นด้วยจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่ม ส่วนผู้ขับขี่ได้เข้ามารับทราบข้อหาแล้วและผู้ขับขี่ได้รับผลกระทบจากแอร์แบ็คระเบิดขอไปรักษาตัวก่อน ทางเจ้าหน้าที่เห็นว่าเป็นผู้ที่ไม่หลบหนีและให้หลักฐานแสดงตัวไว้จึงได้ให้ไปรักษาตัวก่อน สอบพยานที่เกี่ยวข้องไปหลายปากแล้ว ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บยังไม่รูสึกตัวจึงสันนิษฐานว่าบาดเจ็บสาหัสไส้ก่อน
