Ford ทดสอบการสื่อสารระหว่างรถยนต์ไร้คนขับกับคนรอบข้าง
เทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่อยู่ในขั้นตอนการวิจัยศึกษา สู่ผลผลิตในอนาคตที่กำลังจะมาถึง ล่าสุดมีความเคลื่อนไหวจากค่ายรถยนต์ Ford ที่ได้ทำการศึกษาการสื่อสารระหว่างรถยนต์ไร้คนขับและคนรอบข้างที่อยู่บนท้องถนนผ่านแท่งหลอดไฟสีขาวที่ติดตั้งอยู่หน้ารถยนต์
การทดสอบในเรื่องของการสื่อสารระหว่างรถยนต์ไร้คนขับกับคนรอบข้างที่อยู่บนท้องถนนของ Ford ทำโดยการปลอมคนขับเป็นเบาะรถยนต์ เสมือนว่าไม่มีคนขับอยู่ในรถยนต์คันนั้น พร้อมด้วยการติดตั้งหลอดไฟไว้ที่หน้ารถยนต์ เพื่อส่งสัญญาณกับผู้คนบนท้องถนน เป็นแท่งหลอดไฟสีขาวที่ปรากฏ 3 จังหวะ โดยจังหวะแรกคือการกระพริบเร็ว หมายถึงรถยนต์กำลังเครื่อนที่ด้วยความเร็ว จังหวะต่อมาคือกระพริบช้าๆ หมายความว่ารถกำลังเคลื่อนที่ไปอย่างเรื่อยๆ และไฟติดค้างหมายถึงรถยนต์อยู่ในโหมดขับเคลื่อนอัตโนมัติสมบูรณ์แบบ
หลังทดสอบสรุปได้ว่าผู้คนยังไม่ค่อยเข้าใจความหมายของการสื่อสารนี้ แต่ถึงอย่างนั้นทาง Ford ก็ยังเหลือเวลาในการแก้ไขอีกนาน และดูเหมือนว่า Ford จะจริงจังกับเทคโนโลยีไร้คนขับอย่างมาก จากการทุ่มทุน 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อซื้อกิจการบริษัททางด้านระบบปัญญาประดิษฐ์ AI รวมถึงการจับคนมาปลอมตัวเป็นเบาะรถยนต์เพื่อทดสอบการสื่อสารรวมถึงปฏิกริยาของคนบนท้องถนน สำหรับกำหนดการใช้จริงของเทคโนโลยีไร้คนขับโดย Ford นั้นคาดว่าจะมีการนำรถยนต์ไร้คนขับออกมาใช้จริงในปี 2021