แอปเปิ้ลปรับลดความเร็วการทำงานของ iPhone รุ่นเก่าให้ช้าลง 50%
เป็นเรื่องที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้เลยจริงๆ กับข่าวคราวที่ทางแอปเปิ้ลได้ออกมายอมรับแล้วว่าได้ปรับการทำงาน iPhone รุ่นเก่าให้ช้าลง หลังจากที่ผู้ใช้งานหลายรายคงเข้าใจผิดกันอยู่นานว่าที่เครื่องช้าเป็นเพราะตัวเครื่องนั้นรับไม่ไหวกับระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นที่ใหม่ขึ้น
หลังจากที่ได้มีผู้ใช้งานทดสอบการทำงานของเครื่องใน iPhone 6 และพบว่าเมื่ออัพเดทเครื่องเป็น iOS 10.2.x การประมวลผลของเครื่องก็ช้าลง 50% โดยการทำงานของ CPU ได้ลดลงจาก 1.4 GHz เหลือเพียง 600 MHz เท่านั้น แต่เมื่อทำการเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ ตัวเครื่องก็ทำงานที่ความเร็วเท่าเดิมนั่นก็คือ 1.4 GHz
โดยเรื่องราวดังกล่าวถูกค้นพบผ่าน Reddit จึงทำให้ John Poole ผู้พัฒนาแอปทดสอบประสิทธิภาพ CPU ลุกขึ้นมาทำการทดสอบ iPhone หลายรุ่นกระทั่งพบคำตอบว่า แอปเปิ้ลได้ตั้งค่าเอาไว้ว่าหากแบตเตอรี่มีความเสื่อมหรือเก็บประจุได้น้อยลง ก็จะลดการทำงานของเครื่องลงทันที ซึ่งในคราแรกทางฝั่ง John Poole ก็ไม่เข้าใจนักว่าทำไมแอปเปิ้ลต้องทำแบบนั้น แต่ล่าสุดทางแอปเปิ้ลก็ได้ออกมาให้เหตุผลถึงเรื่องนี้ว่า การตั้งค่าดังกล่าวก็เพื่อรองรับการใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนานขึ้นนั่นเอง โดยแอปเปิ้ลได้ทำการลด clock speed ของ CPU ลงเพื่อประหยัดพลังงาน วิธีแก้ไขมีทางเดียวคือเอาเครื่องไปเปลี่ยนเป็นแบตเตอรี่ใหม่เสีย เพื่อให้การทำงานกลับมามีความเร็วเท่าเดิม
การเปิดเผยเรื่องนี้ทางแอปเปิ้ลได้ออกมายอมรับกับ The Verge ซึ่งการตั้งค่าดังกล่าวส่งผลกับผู้ใช้งาน iPhone 6, 6s, SE ที่แบตเริ่มเสื่อมแล้วอัพเดทเป็นเวอร์ชั่น iOS 10.2.x พร้อมทั้งยืนยันว่าจะทำต่อไป ทีนี้ผู้ใช้งานทั้งหลายก็คงหายสงสัยกันแล้วว่าทำไมเครื่องถึงช้าลง และก็คงเซ็งกันไปตามๆ ก็ไม่แน่ใจว่าเหมือนกันว่าแอปเปิ้ลทำไปเพื่อประโยชน์ในการใช้งานที่ยาวนานขึ้นหรือเป็นส่วนหนึ่งของการตลาดกันแน่ เพื่อกระตุ้นความอยากเปลี่ยนเครื่องในผู้ใช้งานรุ่นเก่าๆ หรือไม่อย่างไร เพราะการตั้งค่าแบบนี้ต่อให้ใช้งานต่อวันได้นานก็จริง แต่การประมวลผลที่ช้าจนถึงขั้นอืดอาด ก็ไม่น่าจะเป็นผลดีต่อผู้ใช้งานนัก