หลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษาจำคุก นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และ นายภูมิ สาระผล อดีตรัฐมนตรีช่วยพาณิชย์ และ พวกรวม15คน ในคดีระบายข้าว จีทูจี ที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อรัฐ และกรมราชทัณฑ์นำตัวเข้าคุมขังในเรือนจำกลางพิเศษกรุงเทพมหานครตั้งแต่วานนี้ ล่าสุด เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ทีมทนายและญาติได้ขอเข้าเยี่ยมแต่เรือนจำไม่อนุญาต เนื่องจากเป็นวันหยุด
เช้าวันนี้ นายนรินทร์ สมนึก ทนายความของนายบุญทรงและญาติครอบครัว ลูกสาวของนายภูมิ สาระผล ญาติของนายอัครพงศ์ ช่วยเกลี้ยง อดีตเลขานุการกรมการค้าต่างประเทศและผู้อำนวยการสำนักการค้าข้าวต่างประเทศ เดินทางเข้าเยี่ยม แต่ยังไม่ได้รับการอนุญาตญาติให้เข้าเยี่ยม อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหาทั้งหมดอยู่ในแดนแรกรับ จึงไม่สามารถเข้าเยี่ยมหรือฝากสิ่งของให้ผู้ต้องหาได้ในวันนี้ เพราะเป็นวันหยุดราชการ ซึ่งเป็นไปตามระเบียบปกติของกรมราชทัณฑ์ ทำให้ไม่สามารถสอบถามได้ว่าสภาพความเป็นอยู่ในปัจจุบันเป็นอย่างไรบ้าง ส่วนเรื่องอาการเจ็บป่วยหรือโรคประจำตัวผู้ต้องหาแต่ละคน เบื้องต้นญาติได้เตรียมยามาให้แล้ว แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถรับฝากได้ ส่วนการเตรียมการต่อสู้คดีอุทธรณ์ผลคำพิพากษา ยังต้องรอหารือกับญาติและทนายความของผู้ต้องหารายอื่นๆ ส่วนกรณีที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลบหนีฟังคำพิพากษาจะส่งผลต่อการประกันตัวหรือไม่ ทนายความนายบุญทรงปฏิเสธที่จะตอบคำถาม มีเสียงทนายครับ
https://youtu.be/Bq8JlOMR2sw
ด้าน นายกฤช กระแสทิพย์ ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพ เปิดเผยว่า หลังจากที่เรือนจำรับตัว นายบุญทรง และพวกรวม 15 คน มาเมื่อวานนี้ การใช้ชีวิตอยู่ในเรือนจำคืนแรก ผู้ต้องขังมีสีหน้าเคร่งเครียด ซึ่งเป็นปกติของคนที่เข้ามาใหม่ คาดว่าอาจจะต้องใช้ระยะเวลาในการปรับตัวพอสมควร ต้องอาศัยการทำกิจกรรมร่วมกันกับผู้ต้องขังรายอื่นๆ เพื่อคลายความเครียดลง โดยการดูแลทางเรือนจำได้นำเครื่องใช้ส่วนตัว รวมถึงเครื่องนอนให้ตามปกติ ไม่พิเศษไปกว่าผุ้ต้องขังรายอื่นๆ พร้อมแนะนำการปฏิบัติ และกฏระเบียบของทางเรือนจำ เบื้องต้น ไม่มีใครร้องขออะไรเพิ่มเติม โดยผู้ต้องขังจะถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษ 2-3 วัน ก่อนที่จะส่งไปเรือนจำคลองเปรมที่คุมขังนักโทษ เกิน 15 ปี