หลังจากที่เมื่อวานนี้ กรุงเทพมหานคร นำโดยผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเอาป้ายระงับการใช้อาคารดิเอทัช ภายในซอยร่วมฤดี เขตปทุมวัน มาติดไว้ เพื่อทำตามคำสั่งศาลปกครองสูงสุด ล่าสุด ทั้งในส่วนของโรงแรมดิเอทัสและคอนโดมิเนียมยังคงเปิดให้บริการตามปกติ แม้จะมีป้ายห้ามใช้อาคารติดอยู่หน้าทางเข้าก็ตาม
ป้ายห้ามใช้อาคารจากสำนักงานเขตปทุมวันที่ พลตำรวจเอกอัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครนำมาติดตั้งเมื่อวานนี้ ไม่ได้ทำให้ผู้ประกอบการโครงการดิเอทัส รู้สึกตกใจอะไร และวันนี้ก็ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ โดยภายในก็ยังมีผู้พักอาศัยที่ส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติ และพนักงานมาทำงานกันตามปกติ โดยจากการสอบถามพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ของโรงแรม ได้ข้อมูลว่า ผู้บริหารยังไม่มีท่าทีใดๆ และสั่งให้พนักงานและผู้พักอาศัยยังคงอยู่ต่อไปได้ตามปกติ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างฝ่ายกฏหมายหารือแนวทางดำเนินการ เนื่องจากอาคารโรงแรมใกล้เคียงภายในซอยนี้ ก็พบว่ามีการสร้างความสูงเกิน 8 ชั้นเช่นกัน อีกทั้งจากหนังสือที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งตัดสินให้รื้อถอนอาคาร ระบุรายชื่อของผู้ถูกฟ้องร้องที่เกี่ยวข้องกับโรงแรม กว่า 20 ราย จึงต้องเปิดให้บริการจนกว่าคำสั่งศาลปกครองถึงที่สุด
ด้านนางนวพร กลิ่นบัวแก้ว ผู้อำนวยการเขตปทุมวัน บอกว่า ในวันที่ 7 พฤศจิกายนนี้ เจ้าหน้าที่เขตและพลตำรวจเอกอัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม.จะเดินทางไปแถลงที่ศาลปกครองสูงสุด เกียวกับการดำเนินการในขั้นตอนต่อไปของโครงการ ส่วนการเปิดให้บริการก็เป็นสิทธิ์ของผู้บริหารโครงการ เนื่องจากกระบวนการทางกฏหมายยังไม่ถึงที่สุด
สำหรับคดีดังกล่าว มีการฟ้องร้องกันมาตั้งแต่ปี2550 กระทั่งศาลศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษายืนตามศาลปกครองชั้นต้น ให้กรุงเทพมหานคร รื้อถอนอาคารดิเอทัสทั้ง 2 อาคาร หากฝ่าฝืน มีโทษปรับวันละไม่เกิน 30,000 บาท ส่วนการรื้อถอนอาคารทั้ง 2 แห่ง กรุงเทพมหานครได้ประเมินค่าใช้จ่ายเบื้องต้นแล้ว ประมาณ 200 ล้านบาท จึงต้องจัดหางบประมาณมาทำการรื้อถอน ก่อนเรียกค่ารื้อถอนคืนจากเจ้าของโครงการในภายหลัง ขณะที่ผู้บริหารอาคารดังกล่าวก็ยอมจ่ายค่าปรับ วันละ 30,000 บาท และเร่งหาหลักฐานใหม่มายื่นขอความเป็นธรรมจากศาลปกครองต่อไป