รุดช่วยเหลือ เด็กหญิง 3 พี่น้อง ถูกพ่อเลี้ยงโรคจิต บังคับให้นั่งดูระหว่างมีเพศสัมพันธ์กับแม่ของเด็ก ด้านแม่อ้าง เด็กกุเรื่องขึ้นมาเอง
เจ้าหน้าที่คุ้มครองเด็ก บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.ชุมพร พร้อมด้วยนายก อบต.นาขา อ.หลังสวน จ.ชุมพร นำตัวนางสาวนุช (นามสมมติ) อายุ 32ปี ซึ่งเป็นแม่ของเด็กหญิงทั้งสามคน มาสอบปากคำ ที่ห้องประชุมองค์การบริการส่วนตำบลนาขา โดยไม่ให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปฟัง ซึ่งจากการสอบปากคำ นางสาวนุช ได้ให้การปฏิเสธ พร้อมยืนยันว่าไม่เคยกระทำดังกล่าว ซึ่งเชื่อว่าเด็กคงกุเรื่องขึ้นมาเอง ตนรักลูกและลูกก็รักตน แต่ก็ได้ยินยอมให้ลูกสาวทั้งสามไปอยู่ในการคุ้มครองของบ้านพักเด็กไปก่อน โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ทำบันทึกไว้ และหลังจากนี้ได้เตรียมให้ทางผู้นำท้องถิ่น เฝ้าตรวจดูพฤติกรรมทั้งสองคน ซึ่งก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวพ่อเลี้ยง อายุ 28 ปี มาสอบปากคำไปแล้ว ก่อนที่จะสืบเสาะข้อเท็จจริงเพิ่มเติมว่ามีการล่วงละเมิดทางเพศเด็กด้วยหรือไม่
ทั้งนี้กรณีดังกล่าว นายจรูญ พัฒหาญ กำนันตำบลนาขา อ.หลังสวน ได้รับการร้องเรียนจาก คุณครูของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ในตำบลบางน้ำจืด ว่ามีเด็กนักเรียน จำนวน 3 คน ได้มาเล่าให้ฟังว่า ถูกพ่อเลี้ยงทำร้าย ตบ ตี บ่อยครั้ง และในวันนั้นทราบว่าพ่อเลี้ยงจะมานอนค้างที่บ้าน จึงไม่อยากจะกลับบ้าน เกรงว่าจะโดนทุบตีอีก
จึงได้ประสาน นางสาวชนัญชิดา สุดรอด พนักงานเจ้าหน้าที่คุ้มครองเด็ก บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.ชุมพร เดินทางไปยังโรงเรียนดังกล่าว โดยเด็กหญิงเอ (อายุ 11 ปี) เด็กหญิงบี (อายุ 9 ปี) และ เด็กหญิงซี (อายุ 7 ปี) ซึ่งทั้งสามเป็นพี่น้องกัน
สอบถาม ด.ญ.บี คนกลาง ทราบว่าตนมักจะโดนพ่อเลี้ยงข่มขู่และบังคับหากไม่ทำตามก็จะใช้ไม้ตี ใช้มือตบ บีบคอ นอกจากนี้พ่อเลี้ยงชอบบังคับให้ ด.ญ.บี ยืนดู พ่อเลี้ยงมีเพศสัมพันธ์กับแม่ของเด็ก และทุกเช้าที่พ่อเลี้ยงมานอนที่บ้าน จะคอยปลุกตนตอนเช้ามืด และพาเข้าไปในป่า ก่อนจะพยายามล่วงละเมิด แต่เด็กไม่ยอม จึงถูกบีบคอ ทุบตี อีกทั้งยังบังคับให้ ด.ญ.บี ลงมือตี ด.ญ.เอ พี่สาวและ ด.ญ.ซี น้องสาวเป็นประจำ
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ทางเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กได้นำตัวเด็กทั้งสามไปตรวจร่างกาย ไม่พบการล่วงเลยทางเพศแต่อย่างใด ซึ่งขั้นตอนไปก็จะฟื้นฟูสุขภาพจิตจนกว่าจะกลับมาเป็นปกติ