ด่วน! วิสามัญ “โย ลาย” นักโทษแหกคุก (มีคลิป)

ด่วน! วิสามัญคารถ “โย ลาย” ผู้ต้องหายาเสพติด แหกคุกหนีศาล  

พ.ต.ท.อุทัย วงค์คำแสน รอง ผกก.สภ.เมืองน่าน สั่งเรียกประชุมชุดปฏิบัติการพิเศษ เพื่อวางแผนกระจายกำลังออกไล่ล่าตัวนายอดิเรก ชมภูรส อายุ 36 ปี เจ้าของฉายา “โย ลาย” ผู้ต้องหาคดีค้ายาเสพติด จากกรณีเมื่อวันที่ 8 มี.ค. ที่ผ่านมา หลังได้หลบหนีจากห้องขังใต้ถุนศาลจังหวัดน่านขณะเจ้าหน้าที่นำตัวมารอขึ้นศาลฟังคำตัดสินคดี โดยนายอดิเรกในสภาพถูกคล้องโซ่ตรวน ได้แอบงัดโซ่จนขาด จากนั้นวิ่งหนีไปชิงรถจักรยานยนต์แถววัดช้างค้ำวรวิหารหลบหนีไป

ทั้งนี้หลังจากการไล่ติดตามตัว สืบทราบว่า “โยลาย” ได้มาอาศัยอยู่กับเพื่อที่บ้านพญาวัด ซอยตรงข้ามวัด ต.ดู่ใต้ อ.เมือง จ.น่าน และกำลังจะหลบหนีโดยใช้รถเก๋งสีแดง มาสด้า สีแดง สภาพใหม่ทะเบียนแดง หมายเลขทะเบียน พ 7221 กรุงเทพมหานคร จนเวลาประมาณ 13.45 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าสกัดรถเก่งคันดังกล่าว ภายในซอยร่วมพัฒนา หน้าวัดพญาวัด ต.ดู่ใต้ อ.เมือง จ.น่านและตัดสินใจวิสามัญ ยิงถล่มจนรถมีรูพรุนไปทั้งคัน เป็นเหตุให้ “โยลาย” เสียชีวิตคาที่นั่งคนขับทันที

โดยสภาพศพ “โย ลาย” สวมเสื้อโปโลสีขาว นุ่งกางเกงสีกากีขาสั้น ส่วนกระจกด้านฝั่งคนขับถูกยิงแตกจนหลุดไปทั้งบาน เช่นเดียวกันกับกระจกด้านเบาะคนนั่งหลังคนขับ ส่วนกระจกรถอีก 2 บานที่เหลืออีกฝั่ง เต็มไปด้วยรูกระสุนหลายนัด และมีอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ลูกซองสั้นตกอยู่ที่เท้า 1 กระบอก โดยเจ้าหน้าที่ได้กันพื้นที่ไม่ให้สื่อมวลชนเข้าไปบริเวณจุดเกิดเหตุ

ขณะเดียวกัน หลังหลบหนีแหกคุก “โย ลาย” ได้ไปขอความช่วยเหลือจากเครือข่ายยาเสพติด โดยมีคนช่วยพาหลบหนี จากนั้นได้ไปซื้อโทรศัพท์ รวมทั้งให้เพื่อนจัดหาอาวุธปืนไว้ให้เพื่อต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ รวมทั้งได้มีการไปเช่ารถยนต์คันดังกล่าวจากร้านแห่งหนึ่ง ในจ.น่าน เพื่อใช้เป็นยานพาหนะในการขับหลบหนี

ด้าน พ.ต.อ.สุธรรม ชาติอาษา รอง ผบก.ภ.จว.น่าน พร้อมด้วยอัยการจังหวัดน่าน แพทย์เวรประจำโรงพยาบาลน่าน พิสูจน์หลักฐานตำรวจภูธรจังหวัดน่าน และฝ่ายปกครองอำเภอเมืองน่าน
ได้ร่วมกันตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุและชันสูตรพลิกศพ โดยหลังจากนี้จะได้นำศพผู้ต้องหาไปชันสูตรพลิกศพเพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดที่โรงพยาบาลน่านอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ทางรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดน่าน จะได้มีการเรียกชุดปฏิบัติการพิเศษ ซึ่งปฏิบัติงานครั้งนี้ ให้มีรายงานอย่างละเอียด ก่อนจะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการอีกครั้ง