มีความคิดเห็นจากนักกฏหมายในคดีของนายเปรมชัย กรรณสูตร ผู้บริหารระดับอิตาเลียนไทย ผู้ต้องหาคดีล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรรวมกว่า9คดี แสดงความเป็นห่วงว่า ศาลอาจยกฟ้อง เพราะ ตำรวจไร้อำนาจการสอบสวน แต่กลับต้องมาทำสำนวนการสอบสวน เกรงว่า ท้ายที่สุดแล้ว เมื่อสำนวนขึ้นสู่การพิจารณาของศาล อาจยกฟ้องได้
ผู้ที่ออกมาแสดงความเห็นคือ นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม รองอธิบดีสำนักงานชี้ขาดคดีอัยการสูงสุด ได้ออกมาโพสต์เฟสบุ๊ก อีกครั้ง แสดงความเป็นห่วง พร้อมตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับคดีของนายเปรมชัย กับพวกรวม 4 คน ที่ตกเป็นผู้ต้องหา โดยก่อนหน้านี้ นายปรเมศวร์ เคยโพสเฟซบุ๊คตั้งคำถามว่าคดีนี้ใครเป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ และ พลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรจแห่งชาติ เข้าไปทำอะไรในคดีนี้
นายปรเมศวร์ กล่าวว่า เหตุที่ต้องถามว่า “ท่านมีอำนาจสอบสวนหรือไม่” ก็เพราะการสอบสวนเป็นเงื่อนไขสำคัญที่ทำให้ “พนักงานอัยการ” มีอำนาจในการฟ้องคดีอาญา ซึ่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ได้กำหนดหลักเกณฑ์สำคัญเกี่ยวกับการสอบสวนความผิด มีสาระสำคัญ ว่า การสอบสวนต้องกระทำโดยเจ้าพนักงาน ซึ่งกฎหมายกำหนดให้มีอำนาจและหน้าที่ทำการสอบสวน ทั้งการสอบสวนต้องกระทำโดยพนักงานสอบสวนที่มีเขตอำนาจ หากผู้สอบสวนไม่ใช่ “พนักงานสอบสวนผู้มีอำนาจ” ก็ต้องถือว่า เป็นการสอบสวนที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งเท่ากับว่าไม่มีการสอบสวนในความผิดนั้นมาก่อน อันมีผลทำให้อัยการไม่มีอำนาจฟ้อง
นายปรเมศวร์ ยังกล่าวอีกว่า ที่ถามก็เป็นเพียงการเตือน การทำงานด้านกฎหมายต้องรู้กฎหมายจริงๆ ยิ่งทำคดีที่ผู้ต้องหาที่มีเงินมาก มีอำนาจ ทีมทนายเขาก็ต้องเก่งประมาทไม่ได้ เพราะ “อัยการ” มีหน้าที่รับผิดฟ้องให้คนผิดต้องได้รับโทษ หากปรากฏว่าการสอบสวนไม่ชอบ ศาลก็จะไม่พิจารณาข้อเท็จจริงว่า เขากระทำการอันเป็นความผิดหรือไม่ ถ้าตกม้าตายเพราะ เรื่องนี้ใครจะรับผิดชอบ
ด้านนางสมศรี วัฒนไพศาล อธิบดีอัยการภาค 7 เปิดเผยถึงความคืบหน้าการพิจารณาสำนวนคดีว่า หลังพนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ ส่งผลการสอบสวนเพิ่มเติมมาให้ ทำงานอัยการได้พิจารณาตามคำสั่งให้สอบเพิ่มเติมในบางประเด็นเมื่อวันที่ 21 มีนาคม ที่ผ่านมา แต่พบว่ายังไม่ครบถ้วน ขาดในบางประเด็น จึงประสานให้พนักงานสอบสวนไปสอบเพิ่มเติมอีก และในที่ 26 มีนาคมนี้ ค่อยนำสำนวนมาประชุมหารือกันอีกครั้งที่ จ.กาญจนบุรี ก่อนที่จะรายงานความคืบหน้าให้ได้รับทราบต่อไป โดยการที่อัยการจะพิจารณาสั่งคดีใดนั้น ต้องพิจารณาสำนวนให้มีความละเอียด รอบคอบ เพราะต้องนำไปขึ้นศาล เอาสำนวนไปยื่นฟ้อง หากสำนวนไม่พร้อมหรือไม่เรียบร้อย จะปล่อยให้ผ่านไปไม่ได้