เช้าวันนี้ ( 4 เมษายน) ที่พระบรมราชานุสาวรีย์สามกษัตริย์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
นายกฤตย์ เยี่ยมเมธา , นายดิเรก จันทรดิรก และนายสรุท ศรีถาวร ภาคประชาชน ในฐานะตัวแทนเครืข่ายขอคืนผืนป่าดอยสุเทพ เริ่มตั้งขบวนเพื่อเดินจากจังหวัดเชียงใหม่ จุดหมายปลายทางกรุงเทพมหานคร เพื่อยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ( คสช.) เพื่อขอให้ใช้มาตรา 44 ในการสั่งระงับการก่อสร้างบ้านพักของข้าราชการตุลาการ จำนวน 45 หลัง ในโครงการก่อสร้างที่ทำการศาลอุธรณ์ภาค 5 และบ้านพักและอาคารชุดสำหรับข้าราชการตุลาการ บนเนื้อที่ 147 ไร่ ในพื้นที่ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งสร้างติดแนวเขตป่าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย โดยมีชาวเชียงใหม่จำนวนหนึ่งเดินทางมาให้กำลังใจ พร้อมบริจาคเงินเพื่อสมทบเป็นค่าเดินทางในครั้งนี้
https://youtu.be/GkV6H1bGI2w
นอกจากนี้พระสุทัศน์ สุทัศโน จากวัดสันธาตุ ตำบลสันมหาพน อำเภอแม่แตง ได้เดินเท้าจากวัดมาร่วมส่งตัวแทนเครือข่ายฯที่จะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อนายรัฐมนตรีในครั้งนี้ด้วย โดยตัวแทนกลุ่มได้ร่วมกันใส่บาตรและรับศีลรับพรจากพระสงฆ์ รวมทั้งรับการผูกข้อไม้ข้อมือด้วยสายสินธุ์จากพระสงฆ์และผู้สูงอายุ
นายกฤตย์ เยี่ยมเมธา ตัวแทนภาคประชาชน กล่าวว่า ตนเองและเพื่อนอีก 2 คนอาสาเป็นตัวแทนของชาวเชียงใหม่ เดินทางไปยังทำเนียบรัฐบาลเพื่อยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ให้ใช้มาตรา 44 ระงับและรื้อถอนบ้านพักที่สร้างในพื้นที่ป่าดอยสุเทพออกทั้งหมด และเร่งฟื้นฟูป่าให้กลับสู่สภาพเดิม
ทั้งนี้เครือข่ายฯทราบดีกว่าโครงการนี้ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย แต่ภาคประชาชนจะอาศัยอำนาจของรัฐบาลรัฐฐาธิปัตย์ ในการใช้อำนาจตามมาตรา 44 ซึ่งถือเป็นความหวังเดียวของภาคประชาชนที่จะหยุดยั้งโครงการสร้างบ้านพักในพื้นที่ป่าดังกล่าวได้
ขณะเดียวกันนายกฤตย์ ยืนยันว่า การเคลื่อนไหวและการเดินรณรงค์ครั้งนี้ เกิดจากความคิดขอตนเองในฐานะคนเชียงใหม่ ไม่มีใครอยู่เบื้องหลัง และถือเป็นเรื่องน่ายินดีที่ปัญหานี้ช่วยจุดประกายทำให้องค์กรพิทักษ์รักษาป่าเข้ามาร่วมรณรงค์เพื่อให้คนไทยทั้งชาติเกิดความตื่นตัวและออกมาเคลื่อนไหวดูแลทรัพยากรธรรมชาติและป่าไม้
ส่วนเป้าหมายในการเดินครั้งนี้ กำหนดระยะทางวันละ 50 กิโลเมตร ใช้เส้นทางเดินจออกจากจังหวัดเชียงใหม่ เส้นทางถนนพระปกเกล้า ผ่านประตูเชียงใหม่ อ้อมไปยังประตูท่าแพ และใช้เส้นทางถนนท่าแพ –ถนนเจริญเมือง จนถึงสี่แยกหนองป่าครั่ง จากนั้นจะใช้เส้นทางถนนซุปเปอร์ไฮเวย์เชียงใหม่ –ลำปาง ผ่านจังหวัด ลำพูน – ลำปาง – ตาก จากนั้นจะใช้เส้นทางสายรองในการเดินทาง เพราะมีชุมชนตามรายทางอยู่มาก จากนั้นเมื่อถึงจังหวัดนนทบุรี จะเลี้ยวซ้ายเข้าปากเกร็ดและมุ่งหน้าสู่ทำเนียบรัฐบาล รวมระยะทาง 696 กิโลเมตร คาดว่าจะใช้เวลาในการเดินประมาณ 20 วัน โดยจะถึงกรุงเทพในวันที่ 20 เมษายนนี้
อย่างไรก็ตามในระหว่างการเดินทาง หากมีการเจรจาระหว่างศาลกับภาคประชาชน หรือนายกรัฐมนตรี ประกาศใช้มาตรา 44 ก่อน ทางกลุ่มก็ยืนยันจะเดินทางต่อจุดถึงจุดหมายปลายทาง เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความเพียรพยายามและความอดทน