ผู้เสียหายคลอดเด็กเสียชีวิตพร้อมญาติและชาวบ้าน บุกฟังคำชี้แจงจากโรงพยาบาล ขณะญาติเรียกร้อง ขอให้ย้ายหมอ พยาบาลออกนอกพื้นที่ และสอบข้อเท็จจริง
นายวิชัช ไตรรัตน์ นายกอบต.กะไหล และนายกสมาคมอบต.แห่งประเทศไทย พร้อมด้วย นายสุรเชษฐ์ เพ็ชรเกิด อายุ 22 ปี นางบุญภา ตั้งสุรัตน์ อายุ 52 ปี ญาติผู้เสียหายจากเหตุคลอดลูกและเสียชีวิตภายในโรงพยาบาลพังงา เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 เมษายน ที่ผ่านมา พร้อมทั้งชาวบ้านจำนวน ประมาณ 200 คน เดินทางเข้าโรงพยาบาลพังงา ตามที่ทาง นพ.อรุณ สัตยาพิศาล ผอ.โรงพยาบาลพังงา ได้นัดเจรจาไว้ โดยอนุญาตให้เฉพาะทางญาติที่เกี่ยวข้อง ขณะที่ให้กลุ่มชาวบ้านที่เดินทางมาด้วยรอสรุปบริเวณโรงพยาบาลพังงา ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ดูแลรักษาความสงบทั่วทั้งโรงพยาบาลพังงา และความสนใจของผู้เข้ารับบริการภายในโรงพยาบาลพังงา
สำหรับการเจรจาครั้งนี้มี นพ.อรุณ สัตยาพิศาล ผอ.โรงพยาบาลพังงา นพ.สามารถ ถิระศักดิ์ สสจ.พังงา นพ.อุทัย จินดาพล อดีตสสจ.พังงา ฝ่ายบริหารโรงพยาบาลพังงา และนายบำรุง ปิยนามวาณิช นายกอบจ.พังงา เข้าร่วม บรรยากาศการเจรจาเป็นไปด้วยความเคร่งเครียด ทางทีมโรงพยาบาลพังงาต้องเชิญ เข้ามาเจรจาเพื่อลดความตึงเครียด ส่วนบรรยากาศเริ่มตึงเครียดอีกครั้งเมื่อเวลาการเจรจาผ่านไปนานกว่า 3 ชั่วโมง
ขณะที่ทางญาติผู้เสียหายได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1.ต้องการให้ย้ายแพทย์และพยาบาลเวร ในวันเกิดเหตุออกจากโรงพยาบาล ยกระดับมาตรฐานการปฏิบัติหน้าที่ให้ดี 2.ต้องการให้กรรมการสอบข้อเท็จจริงดำเนินการอย่างโปร่งใส
เบื้องต้นทาง นพ.อรุณ สัตยาพิศาล ผอ.โรงพยาบาลพังงา รับปากว่า เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ทางโรงพยาบาลพังงาต้องการอยู่แล้ว ส่วนการโยกย้ายแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ เป็นอำนาจหน้าที่ของ สาธารณสุขจังหวัด
นายวิชัช ไตรรัตน์ นายกอบต.กะไหล และนายกสมาคมอบต.แห่งประเทศไทย กล่าวว่า อีกเรื่องหนึ่งที่ทางญาติและตนเองสงสัยว่าการฝากครรภ์ที่คลินิกของคนท้องไว้กับแพทย์สูตินารีเวชกรรม ซึ่งเมื่อถึงเวลาคลอดก็ต้องคลอดที่โรงพยาบาลพังงา เปรียบเสมือนว่าใช้อุปกรณ์ของหลวงเพื่อทำธุรกิจของตนเอง ตนเองมองว่าไม่ถูกต้อง เช่น ผู้ป่วยเข้ามาต้องการรับบริการที่ โรงพยาบาลพังงา แต่ถูกปฏิเสธว่า หมอไม่อยู่ ไม่ว่าง ชาวพังงาจึงมองว่าหากใช้บริการที่คลินิกจะได้รับความสะดวกมากกว่าที่ใช้บริการในโรงพยาบาล ส่วนผลการประชุมตนเองมองว่าชาวบ้านพอใจได้เพียงระดับหนึ่งเท่านั้น ซึ่งทางโรงพยาบาลพังงาต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าสามารถปฏิบัติให้บริการประชาชนให้พึงพอใจได้มากกว่านี้ และการสอบสวนต้องมีประชาชนหรือผู้เสียหายเข้าร่วมในการตรวจสอบครั้งนี้ด้วย โดยตนเองพร้อมที่จะติดต่อประสานงานอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เกิดความโปร่งใสและความพอใจจากประชาชน
ด้าน นพ.อรุณ สัตยาพิศาล ผอ.โรงพยาบาลพังงา กล่าวว่า ตามที่ผู้เสียหายและทางญาติเข้าพูดคุยกับทาง แพทย์ พยาบาล ตนเองยอมรับว่าเกิดความเข้าใจผิดระหว่างผู้ให้บริการและผู้รับบริการ และพร้อมที่จะดำเนินการอย่างเร่งด่วนในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ และจะมีกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเป็นคนนอกทั้งหมด โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านสูตินารีแพทย์ ผลการสอบสวนจะมีการชี้แจงผลการสอบสวนเป็นระยะๆ