คดีทุจริตเงินอุดหนุนเงินโรงเรียนพระปริยัติธรรม ที่มีวัดดังและพระชั้นผู้ใหญ่ที่อยู่ในมหาเถรสมาคมเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการเปิดเผยรายชื่อวัดไป3วัด ซึ่ก็มีวัดสระเกศ วัดสามพระยาและวัดสัมพันธวงศ์ ล่าสุด ก็มีรายชื่ออีก7วัด ออกมาแล้ว ทั้งหมดอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และเป็นวัดดัง รายชื่อวัดทั้งหมด ผู้อำนวยการพระพทุธศาสนาแห่งชาติ ได้ส่งสำนวนให้กับ ปปป.เรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงแค่การส่งสำนวนให้ ปปช.พิจารณาชี้มูลความผิด
บรรยากาศที่กองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ปปป.ยังคงมีสื่อมวลชนจากหลายสำนักมาปักหลักเฝ้ารอความคืบหน้าทางคดี หลังจากมีกระแสข่าวว่า พันตำรวจโทพงศ์พร พรหามเสนห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ หรือ พศ.จะนำสำนวนคดีร้องทุกข์กล่าวโทษเอาผิดอีก7วัด ที่เข้าข่ายทุจริตเงินสนับสนุนเงินโรงเรียนพระปริยัติธรรมมาส่งที่ บก.ปปป.
อย่างไรก็ตาม พลตำรวจตรีกมล เหรียญราชา ผู้บังคับการ ปปป.ออกมาชี้แจงกับผู้สื่อข่าวว่า พันตำรวจโทพงศ์พร นำสำนวนร้องทุกข์กล่าวโทษ ล็อตที่3 อีก7วัด มาส่งมอบให้กับพนักงานสอบสวน ปปป.ตั้งแต่เมื่อช่วงเย็นวานนี้ แล้ว โดยตนเองยังไม่ได้เซ็นรับสำนวนดังกล่าว และยังอยู่ระหว่างการสอบปากคำพยานเพิ่มเติม ซึ่งอาจจะเรียกพันตำรวจโทพงศ์พรมาให้ปากคำเพิ่มอีกก็ได้ เพียงแต่ยังไม่ประสาน
สำหรับ7วัด ที่เข้าข่ายทุจริตเงินอุดหนุนโรงเรียนพระปริยัติธรรม ทีมข่าว ได้รับการยืนยันจากแหล่งข่าวว่า อีก 7 วัดที่เหลือ ส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพมหานคร ทั้งหมด ได้เงินอุดหนุนโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญ ปี 2556 พระภิกษุสามเณร 2ล้าน5แสน รูป 72 ล้านบาท เฉลี่ยวัดละ 10 ล้านบาท ได้แก่ วัดพิชยญาติการาม วัดเทพศิรินทราวาส วัดสุทัศนเทพวราราม วัดเทวราชกุญชร วัดบวรนิเวศวิหาร วัดอรุณราชวราราม และวัดกวิศราราม
นอกจากวัดในกรุงเทพฯแล้ว มีรายงานว่า ยังมีอีก7วัด ที่อยู่ในต่างจังหวัด ที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มีข้อมูลเกี่ยวข้องทุจริตด้วย โดยมีวัดที่จังหวัดนนทบุรี 2 แห่ง จังหวัดอุบลราชธานี 2 แห่ง จังหวัดนครศรีธรรมราช 2 แห่ง และจังหวัดลำปาง 1 แห่ง
ขณะที่ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการหาข้อมูลเพิ่มเติม เพราะข้อมูลสำนวนที่ปปป. ส่งมา ยังไม่ครบถ้วน เนื่องจากมีเวลารวบรวมข้อมูลและพยานหลักฐานเพียง 30 วัน เห็นว่ายังไม่ชัดเจนจึงต้องรวมรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม โดยตามระเบียบของ ป.ป.ช.จะมีกรอบเวลาในการแสวงหาข้อมูล 6 เดือน หากยังทำไม่เสร็จเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบสำนวนจะขอขยายเวลาได้อีก 3 เดือน หากยังทำไม่เสร็จจะต้องเสนอเข้าที่ระชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.เพื่อของขยายเวลาอีก 3 เดือน แต่หลังจาก 1 ปี หากรวบรวมพยานหลักฐานไม่เสร็จจะต้องนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.เพื่อให้คณะกรรมการลงไปดำเนินการ