เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 29 เม.ย. ที่สน.คันนายาว น.ส.สุภาวดี มูประสิทธิ์ อายุ 29 ปี เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ ร.ต.อ.วิทธวัช สาคะรินทร์ รอง สว.(สอบสวน)สน.คันนายาว เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานภายหลังถูกโชเฟอร์แท็กซี่ลวนลามและลักทรัพย์ขณะเผลอหลับหลังเรียกใช้บริการเพื่อไปส่งยังบ้านพัก
น.ส.สุภาวดี กล่าวว่า ประกอบอาชีพเป็นพีอาร์ภายในสถานบันเทิงแห่งหนึ่งตั้งอยู่ซอยทองหล่อ 10 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. โดยปกติหลังจากเลิกงานจะเรียกใช้บริการรถแท็กซี่ที่จอดให้บริการลูกค้าหน้าร้านเพื่อกลับบ้านพักอยู่เป็นประจำ ซึ่งก่อนเกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณ 03.00 น. ของวันที่ 28 เม.ย. ตนโดยสารแท็กซี่ ไม่ทราบสี และหมายเลขทะเบียนเพื่อให้ไปส่งบ้านพักย่านรัชดาภิเษก-ห้วยขวางโดยระหว่างการเดินทางตนนั่งอยู่เบาะหลังฝั่งซ้ายมือและมีอาการมึนเมาจึงเผลอหลับไป จนกระทั่งเวลาประมาณ 03.45 น. ตนรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาก่อนพบว่า โชว์เฟอร์ได้จอดรถข้างทางอยู่บนทางพิเศษฉลองรัช ใกล้ทางออกถนนจตุโชติ ซึ่งย้ายมานั่งอยู่ด้านข้างช่วงเบาะหลังฝั่งขวา
โดยใบหน้าซุกอยู่ที่บริเวณหน้าอกตนด้วยความตกใจจึงใช้มือผลักออกก่อนรีบเปิดประตูลงจากรถทันที จากนั้นทางโชเฟอร์ได้รีบขับรถหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
น.ส.สุภาวดี กล่าวว่า ขณะนั้นตนพยายามติดต่อเพื่อนเพื่อให้มารับพร้อมทั้งแจ้งเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ระหว่างที่ยืนรออยู่นั้นกลับมีรถแท็กซี่อีกคันวิ่งผ่านมาจึงเรียกเพื่อให้ไปส่ง เมื่อมาถึงที่พักตนได้ตรวจสอบทรัพย์สินพบว่า แหวนน้ำหนัก 1 สลึง ที่สวมอยู่ในนิ้ว พร้อมเงินสด 2 พันบาท ที่อยู่ในกระเป๋าสะพายหายไป จึงคาดว่าถูกโชเฟอร์ลักทรัพย์ขณะเผลอหลับ
ด้าน ร.ต.อ.วิทธวัช เปิดเผยว่า ทางผู้เสียหายได้นำหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดขณะขึ้นรถคันเกิดเหตุมาส่งมอบให้กับทางพนักงานสอบสวนเพื่อประกอบในสำนวนคดีโดยหลังจากนี้จะส่งตัวไปตรวจร่างกายที่รพ.ตร. พร้อมทั้งทำการสอบปากคำเพิ่มเติม ก่อนประสานให้ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนติดต่อกับจราจรทางพิเศษฉลองรัชเพื่อตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุและเส้นทางการหลบหนีของคนร้ายก่อนเร่งติดตามตัวผู้กระทำผิดมาเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
และด้วยตนเองมีอาการมึนเมา จึงจำใบหน้าของคนขับรถแทกซี่คันดังกล่าวไม่ได้ จำได้เพียงเป็นชายวัยกลางคน ทั้งนี้ได้นำหลักฐานกล้องวงจรปิดหน้าร้าน ที่บันทึกภาพรถแทกซี่คันที่ก่อเหตุมามอบให้ตำรวจเพื่อสืบหาตัวคนร้ายด้วย โดยภายหลังแจ้งความ ตำรวจฝ่ายสืบสวนสน.สายไหม พาผู้เสียหายไปชี้จุเกิดเหตุ พบว่า อยู่บริเวณทางด่วนฉลองรัชฯ ใกล้ทางลงจตุโชต ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของสน.คันนายาว จึงได้ประสานงานให้ ตำรวจสน.คันนายาว รับไปเนินคดีหาตัวคนร้ายต่อไป