วัยรุ่นแต่งชุดไทยเข้าแถวยิงปืนหน้างานแต่งเข้ามอบตัว ยืนยันไม่ได้เจตนาจะให้แพร่ไปในโลกโซเซียล พร้อมกล่าวขอโทษต่อสังคม ตร.เร่วตรวจสอบใบอนุญาตพกพา
กลุ่มวัยรุ่นจำนวน 12 คน ที่แต่งชุดไทยเป็นเพื่อนเจ้าบ่าว เข้าแถวยิงปืนบริเวณหน้างานแต่ง เดินทางเข้ามอบตัวกับ พ.ต.อ.ตรีวิทย์ ศรีประภา รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง
โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นในงานแต่งงานหมู่ที่ 9 ต.หานโพธิ์ อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง ก่อนเข้างานแต่งงาน นายอุดมเดช รักดำ และนางสาวสวรรยา คำคง เมื่อวันจันทร์ที่ 23 เมษายน 2561 ที่ผ่านมา โดยกลุ่มวัยรุ่นชุดไทยอยู่ในขบวนขันหมากของฝ่ายเจ้าบ่าว และเจ้าหน้าที่ตำรวจ
กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบปลอกกระสุนปืนขนาด .45 , ขนาดลูกซอง , ขนาด 9 มม ประมาณ 40 ปลอก
สำหรับผู้ที่เข้ามอบตัวในครั้งนี้จำนวน 12 คน มีนายณัฐพงค์ สงหล่อ หรือฉายาบาส พลาซ่า อายุ 29 ปี เป็นหัวหน้าทีม นายชัยยุทธ แก้วไชย อายุ 24 ปี นายศุภทัต สุพรรชนะบุรี อายุ 29 ปี
นายพิชานนท์ เทพภักดี อายุ 31 ปี นายชาญณรงค์ ทองเชิด อายุ 42 ปี นายสมศักดิ์ แซ่ล้อ อายุ 32 ปี นายธนากรณ์ ทะประสิทธิ์จิต อายุ 28 ปี นายกันตภณ หนูเกื้อ อายุ 24 ปี นายมนตรี เต็มพุทธ อายุ 24 ปี นายนภดล ด้วงชู อายุ 27 ปี นายมนูญ ชนะชัย อายุ 27 ปี นายภูษิต ศรีนิเนียน อายุ 34 ปี เข้ามอบตัวพร้อมอาวุธปืนลูกซอวยาวออโตเมติก จำนวน 2 กระบอก อาวุปืน 9 มม.จำนวน 3 กระบอก
และอาวุธปืน จุด 45 อีก 1 กระบอก รวม 6 กระบอก ซึ่งอาวุธปืนทั้งหมดมีใบอนุญาต ใช้ พลัดเปลี่ยนกันยิงจำนวน 14 คน ส่วนอีก 2 คน คือนายชัยสรรค์ สำแดง อายุ 35 ปี และนายชัยยง ปทุมวัน อายุ 29 ปี เดินทางไปต่างจังหวัด และจะเข้ามอบตัวในเร็วๆนี้
นายณัฐพงค์ สงหล่อ หัวหน้าทีม ออกมากล่าวขอโทษต่อสังคมในกรณีดังกล่าว ว่าจริงๆแล้วถ่ายคริปเพื่อไว้ดูในเฉพาะกลุ่มตนเท่านั้น แต่หลังจากนั้นเพื่อในกลุ่มส่งต่อให้ญาติๆ จนกระทั่งกลายเป็นคริปหลุดออกสู่โลกโซเซียล ในเมื่อพวกตนผิดก็ต้องยอมรับผิด
ทางด้าน พ.ต.อ.ตรีวิทย์ กล่าวว่า สำหรับข้อหาที่แจ้งต่อผู้กระทำผิดทั้ง 14 คนนั้น จะแตกต่างกันไป ก่อนอื่นต้องตรวจสอบใบอนุญาต ทั้งอนุญาตให้ครอบครอง อนุญาตพกพา ซึ่งแตกต่างกันไปแต่ที่ทุกคนต้องรับคือข้อหายิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ในส่วนของการพกพานั้นต้องดูไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งหลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องยึดอาวุธปืนทั้งหมดเพื่อนำไปพิสูจน์เทียบเคียงทางวิทยาศาสตร์ว่าเคยใช้ก่อเหตุหรือไม่ หากพบว่ามีการใช้ก่อเหตุก็จะแจ้งข้อหาเพิ่ม อย่างไรก็ตามสำหรับการเข้ามอบตัวในครั้งนี้ในเบื้องต้นอนุญาตให้ประกันตัวไปก่อน