ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบนำหมายค้นศาลจังหวัดมีนบุรี เข้าค้นหมู่บ้านแห่งหนึ่งภายในซอยมิสทีน ย่านสะพานสูง หลังพบความเชื่อมโยงการทุจริตเงินทอนวัด จากการตรวจค้น เจ้าหน้าที่ถึงกับตะลึง เมื่อตรวจพบเจออาวุธปืนซุกซ่อนอยู่ในบ้านถึง22กระบอก และทรัพย์สินอีกหลายรายการ มีนายทหารสังกัดกองบัญชาการกองทัพไทยเป็นเจ้าของบ้าน จากการสอบสวนเชิงลึก พบว่า เจ้าของบ้านเปิดบริษัทรับประชาสัมพันธ์ให้กับวัดชื่อดังแห่งหนึ่ง ล่าสุด รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รุดตรวจสอบปืนที่ยึดมาได้ พร้อมสอบปากคำแม่บ้านที่ดูแลบ้าน หลังพบว่า แม่บ้านรายนี้ มีเงินฝากในบัญชีสูงถึง25ล้านบาท(มีคลิป)
พลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพรหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาตรวจสอบอาวุธปืน สั้นและยาว รวม22 กระบอก ที่ กองปราบปราม ยืดมาได้หลังนำกำลังเข้าตรวจค้น บ้านเป้าหมายคดีเงินทอนวัด ในซอยมิสทีน เขตสะพานสูง ที่ตรวจสอบพบเส้นทางการเงินตั้งแม่ค้ามาเป็นนอมินี เปิดบริษัทรับเงินจากพระวัดดังในกทม. แล้วโอนต่อไปอีกทอดนึง จากการตรวจสอบพบมีการรับมาโอนไปถึง 25 ล้านบาท เกี่ยวพันถึงพระชั้นผู้ใหญ่ ของวัดดังในกรุงเทพมหานคร ด้วย
โดยพล.ต.อ.ศรีวราห์ ได้ประสานเจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และ และชุดเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด มาร่วมตรวจสอบของกลาง ที่ตรวจยึดมาเมื่อวานนี้ พร้อมกันนี้ เจ้าหน้าที่ยังเชิญตัว น.ส.นุชรา สิทธินอก อายุ 32 ปี เป็นชาว จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นแม่บ้านที่คอยดูแลบ้านหลังดังกล่าว มาให้ข้อมูล และขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบสวน
ย้อนไปเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบและเจ้าหน้าที่ปปง.นำหมายค้นศาลจังหวัดมีนบุรี เข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งภายในหมู่บ้านสีวลี รามคำแหง ในซอยมิสทีน เขตสะพานสูง หลังสืบทราบว่าบุคคลที่พักอาศัยอยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าวมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีทุจริตเงินงบประมาณเผยแผ่พระพุทธศาสนา หรือ เงินทอนวัด
จากการตรวจสอบบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น มีนายทหารสังกัดศูนย์รักษาความปลอดภัย กองบัญชาการกองทัพไทยแสดงตัวเป็นเจ้าของบ้านพักอาศัย ภายในบ้านพบตู้เซฟ 3 ใบ แบ่งเป็นตู้เซฟขนาดใหญ่ 1ใบ และขนาดเล็ก 2 ใบ นอกจากนี้ ปืนยาว 5 กระบอก ปืนสั้น อีก17 กระบอก เครื่องกระสุนและทรัพย์สินมีค่าอีกหลายรายการ และยังพบเอกสารเกี่ยวกับธุรกรรมการเงินและใบเสร็จต่างๆ จำนวนมาก
พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเชิด ผู้บังคับการกองปราบปราม เปิดเผยว่า สืบเนื่องจาก กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หรือ บช.ก. ได้รับเรื่องร้องทุกข์จากทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ให้ช่วยตรวจสอบการทุจริตเงินงบประมาณเผยแผ่พระพุทธศาสนาที่ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ที่ได้กระจายเงินดังกล่าวไปตามวัดต่างๆ เพื่อใช้ในการจัดกิจกรรมเผยแผ่พระพุทธศาสนา กระทั่งต่อมาทางด้านกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) ได้ตรวจพบการทุจริตเกิดขึ้นในวัดใหญ่แห่งหนึ่งภายในพื้นที่ กทม. และมีพระชั้นผู้ใหญ่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการทุจริต โดยพบว่า มีการนำเงินไปใช้ไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ที่พศ.กำหนด จึงทำการตรวจสอบเส้นทางการเงิน กระทั่งพบว่าพระชั้นผู้ใหญ่ของวัดดังแห่งหนึ่ง มีการโอนเงินงบประมาณที่ทางวัดได้รับมาจากทางสำนักพุทธฯ จำนวน 25 ล้านบาท ไปให้กับ หญิงสาวรายหนึ่งที่พักอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ จนนำไปสู่การเข้าทำการตรวจค้น
