ปฎิบัติการเพื่อให้การช่วยเหลือและค้นหาเยาวชนจำนวน 13 คน ทีมฟุตบอลทีน ทอล์ค(หมูป่า)อะคาเดมี แม่สาย ติดภายในถ้ำบริเวณวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย ตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายนที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถช่วยเหลือได้ ปัญหาสำคัญของการค้นหาครั้งนี้คือ เรื่องของฝนที่ตกอย่างหนักนับตั้งแต่วันเกิดเหตุ นอกจากจะเป็นอุปสรรคในการค้นหาเนื่องจากปริมาณน้ำที่ปิดปากถ้ำแล้ว ยังส่งผลต่อการปฎิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ สภาพแวดล้อมมีแต่ดินโคลน ส่งผลทำให้เจ้าหน้าที่ ที่ทำงานมาตลอดกว่าสัปดาห์เกิดปัญหาไม่มีเสื้อผ้าสวมใส่ เพราะเปื้อนโคลน แต่ปัจจุบันปัญหาเหล่านั้นได้หมดไป เมื่อมีโรงงานซักอบรีดรายหนึ่ง ชื่อโรงซักผ้ามิสไวท์คลีน ซัก อบ รีด ได้อาสาเข้ามาบริการซักผ้าให้กับเจ้าหน้าที่โดยรับส่งฟรี ไม่คิดค่าใช้จ่าย โดยหลังประกาศทางเฟสบุ๊ก มีเจ้าหน้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก โดยนอกจากจะซัก อบแห้งแล้ว เสื้อผ้าตัวไหนที่ชำรุด หรือฉีกขาดก็บริการเย็บ หรือซ่อมแซมให้ฟรี น.ส.รวินท์มาศ ลือเลิศ อายุ 38 ปี เจ้าของโรงซักผ้าแห่งนี้ระบุว่า ที่เข้ามารับบริการซักเสื้อผ้าฟรีให้กับเจ้าหน้าที่ชุดปฎิบัติงานเหล่านี้ เนื่องจากอยากช่วยเหลือเด็กๆทั้ง 13 คนที่ติดภายในถ้ำ ซึ่งเห็นมีการประกาศขอความช่วยเหลือด้านอาหาร หรือของใช้ต่างๆ ก็อยากช่วยเหลือ ตนและเพื่อนๆตลอดจนทีมงานซักผ้าจึงปรึกษากันว่าจะช่วยเหลือพวกเขาได้อย่างไรบ้าง จนสรุปว่าในเมื่อมีอาชีพซักผ้า และถนัดในด้านนี้อยู่แล้วจึงอาสาที่จะรับหน้าที่ด้านนี้ดีกว่า เพราะเจ้าหน้าที่เหล่านี้ลำบากและเสียสละมากแล้ว อยากผ่อนภาระให้บ้างน.ส.รวินท์มาศกล่าวว่า เดิมทีไม่รู้ว่าจะยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือได้อย่างไร จึงลองประกาศทางเฟสบุ๊กดู และประสานไปเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่รู้จักกัน ให้ลองช่วยประกาศ ปรากฎว่ามีเจ้าหน้าที่ไปแจ้งและมีคนช่วยกันแชร์ข้อความไปมาก แรกๆไม่มีใครมาใช้บริการ จนกระทั่งเมื่อวันที่28มิถุนายน ได้เจ้าหน้าที่ตำรวจตชด. คนหนึ่งโทรมาสอบถามว่าจะซักให้จริงไหม ซึ่งตนก็ดีใจมาก จากนั้นการบริการก็ไปถึงเจ้าหน้าที่รายอื่นๆ โดยนำผ้ามาให้ซักจำนวนมาก รวมถึงหน่วยชีลที่ปกติเขาจะมีเวลาน้อยมาก เพราะพักเพียงวันละ 2 ชั่วโมงซึ่งการซักผ้าจึงไม่ทันน.ส.รวินท์มาศกล่าวด้วยว่า การซักเสื้อผ้าของเจ้าหน้าที่จะเปื้อนโคลนอย่างมาก ต้องใช้น้ำยาล้าง และซักนานกว่าผ้าที่ให้บริการทั่วไป อีกทั้งต้องไปรับ-ส่งถึงที่ แต่ก็ภูมิใจและดีใจที่มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งของการช่วยเหลือน้องๆทั้ง 13 คน แม้จะไม่มีโอกาสได้ช่วยเหลือโดยตรง แต่การช่วยเจ้าหน้าที่ในเรื่องเสื้อผ้า จะทำให้เจ้าหน้าที่มีกำลังใจในการติดตามตัวน้องๆให้ได้โดยเร็วที่สุด โดยแรกตั้งใจจะรับวันละ 2 รอบ เช้ากับเย็น แต่ตอนหลังเจ้าหน้าที่ต้องการให้ซักมากขึ้นและปฎิบัติภารกิจไม่ตรงกัน จึงเป็นวันละหลายรอบแล้วแต่ทางเจ้าหน้าที่สะดวก แจ้งมาก็จะไปรับและตั้งใจจะรับบริการซักให้กับเจ้าหน้าที่จนกว่าจะจบภาระกิจหรือติดตามตัวน้องทั้ง 13 คนเจอ