คดีการเสียชีวิตของน้องหญิง แม้ว่าตอนนี้ยังสรุปไม่ได้ว่า เกิดจากฆาตกรรมหรือเสียชีวิตเอง ซึ่งก็นยังต้องรอผลพิสูจน์จากทางนิติวิทยาศาสตร์อีกบางประเด็น โดยเฉพาะข้อสงสัยล่าสุด คือเรื่องหัวเกียร์รถเทรลเลอร์ที่ครอบครัวน้องหญิงตั้งข้อสังเกตุว่า อาจเป็นอาวุธที่ใช้สังหารน้องหญิงหรือไม่ ซึ่งตอนนี้ก็ยังรอผลตรวจอยู่ แต่อย่างไรก็ตาม วันนี้ ครอบครัวน้องหญิงก็ได้เข้าขอบคุณตำรวจที่ช่วยเร่งรัดคดี จนคดีมีความคืบหน้าไปมาก
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พร้อมด้วยนายสุบิน ยาวิราช และครอบครัวของ นางสาวนรีกานต์ ยาวิราช หรือ น้องหญิง เข้าพบ พลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอบคุณที่ช่วยคลี่คลายคดีจนสามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นคดีฆาตกรรมอำพราง และนำไปสู่การจับกุมคนร้ายในคดีนี้ได้ในที่สุด
โดยนายสุบิน ได้กล่าวขอบคุณที่พลตำรวจเอกศรีวราห์ช่วยติดตามคดีนี้จนมีความชัดเจน จากคดีอุบัติหตุธรรมดาจนกลายเป็นคดีฆาตกรรม เชื่อว่าต้องหญิงตายตาหลับ หลังจากได้รับความเป็นธรรม
กดดูคลิป
ส่วนประเด็นเรื่องคันเกียร์หรือหัวเกียร์ ที่นายอัจฉริยะและครอบครัวออกมาตั้งข้อสังเกตรถเทรลเลอร์ของ นายสุรพล ดาราคำ หรือ นายออฟ ผู้ต้องหาในคดี ว่าวันที่ 19-20 กรกฎาคม ช่วงวันเกิดเหตุ คันเกียร์ รถคันนี้ได้หายไป แต่เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม ตอน พล.ต.อ. ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ลงพื้นที่ตรวจสอบ กลับพบว่ามีคันเกียร์เสียบคาอยู่ภายในรถตามปกติ จึงมีการตั้งข้อสงสัยนายออฟ อาจใช้คันเกียร์เป็นอาวุธทำร้ายร่างกายน้องหญิง เพราะคันเกียร์นี้สามารถถอดออกได้
นายอัฉริยะ บอกว่า ยังไม่ฟันธงว่าเป็นอาวุธที่ใช้ทำร้ายน้องหญิงจนเป็นสาเหตุถึงแก่ความตาย แต่เจ้าหน้าที่ได้เก็บตัวอย่างดีเอ็นเอ พร้อมลายนิ้วมือแฝงไว้หมดแล้ว ทั้งจุดคันเกียร์ รวมทั้งบริเวณภายในและภายนอกตัวรถ