ช่วงเช้าวันนี้ (2 ต.ค.) ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย (ภท.) มีการจัดประชุมใหญ่สามัญ โดยก่อนเริ่มการประชุมบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก เนื่องจากมีนักการเมืองและสมาชิกพรรคภูมิใจไทยทยอยมาร่วมประชุม โดยถือเป็นการประชุมครั้งแรกนับแต่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ประกาศคลายล็อกทางการเมือง โดยส่วนใหญ่ของผู้มาร่วมประชุมยังคงเป็น ส.ส.พรรคภูมิใจไทย
นำโดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรค นายชัย ชิดชอบ อดีตประธานรัฐสภา นายสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานที่ปรึกษาพรรค นายทรงศักดิ์ ทองศรี อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม รองหัวหน้าพรรค นายโสภณ ซารัมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รองหัวหน้าพรรค นายศุภชัย โพธิ์สุ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รองหัวหน้าพรรค นายศุภชัย แสนแก้ว อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ รองหัวหน้าพรรค นายสุนทร วิลาวัลย์ รองหัวหน้าพรรค นายสุชาติ โชคชัยวัฒนากร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม รองหัวหน้าพรรค นายศุภชัย ใจสมุทร รองเลขาธิการพรรค เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมีอดีต ส.ส.จากพรรคการเมืองอื่นที่ประกาศตัวจะลงสมัคร ส.ส.พรรคภูมิใจไทย มาร่วมประชุมเช่นเดียวกัน อาทิ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ อดีต ส.ส.อุทัยธานี พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) นายพงษ์พันธุ์ สุนทรชัย อดีต ส.ส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย (พท.) ขณะเดียวกัน อดีต ส.ส.ภูมิใจไทย ที่เคยมีข่าวก่อนหน้านี้ว่าจะไปร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ก็มาร่วมงานเช่นกัน เช่น นายสุชาติ ศรีสังข์ อดีต ส.ส.มหาสารคาม นายนที สุทินเผือก หรือกรุง ศรีวิไล อดีต ส.ส.สมุทรปราการ เป็นต้น โดยทั้งหมดยืนยันกับนายอนุทินว่า ยังอยู่กับพรรคภูมิใจไทย แต่ที่มีชื่อไปปรากฏเนื่องจาก โดนกลุ่มสามมิตรนำชื่อไป
นายอนุทิน กล่าว ก่อนเข้าร่วมประชุมพรรคพรรคภูมิใจไทยเพื่อตั้งคณะกรรมการบริหารพรรค คณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง ว่า การดำเนินการของพรรคจากนี้คือจะต้องใช้เวลาอันสั้น นำนโยบายพรรคไปทำความเข้าใจกับประชาชน เป็นนโยบายที่ทำได้เลย และทำได้เร็ว พร้อมขอให้เชื่อมั่นในพรรค ส่วนตัวเชื่อว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในปีหน้าอย่างแน่นอน ซึ่งพรรคก็พร้อมสำหรับการเลือกตั้งเต็มที่ ส่วนการประชุมวันนี้จะมีบิ๊กเซอร์ไพรส์ มีอดีต ส.ส.หรือผู้สมัครคนดังมาร่วมงานกับพรรคหรือไม่ต้องรอดู
สำหรับพันธมิตรทางการเมืองของภูมิใจไทยจะเป็นพรรคการเมืองใดบ้างนั้น นายอนุทินกล่าวว่า เบื้องต้น เราต้องดูตัวเองก่อน จะเป็นรัฐบาลหรือไม่ ต้องดูว่าพรรคได้ ส.ส.กี่ที่นั่ง ซึ่งผลการเลือกตั้งคือการตัดสินใจของประชาชน ที่สำคัญ ต้องทำตัวเองให้เข้มแข็งเพื่อแข่งขันให้ชนะการเลือกตั้ง ไม่ต้องเอาปาร์ตี้ลิสต์เยอะ และคงไม่ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งทุกเขต ขอเอาชัวร์ดีกว่า ทำประโยชน์ให้ชาวบ้านดีกว่า
“พรรคเราไม่อยากให้เข้าไปสภาฯทำหน้าง่วง ถ้าคนไม่มีคะแนนนิยม แค่ลงไป เหมือนหลอกชาวบ้าน”