ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นบนโลก อาจทำให้การใช้ชีวิตในโลกอนาคตเป็นเรื่องง่ายขึ้น เทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามารับใช้มนุษย์ ซึ่งเป็นผู้คิดค้นและประดิษฐ์นวัตกรรมเพื่อความสะดวกสบาย แต่ขณะเดียวกันระบบสมองกลที่เรียกกันว่า AI (Artificial Intelligence) และระบบอัตโนมัติ (Automation)ที่ถูกพัฒนาขึ้น ต่างก็เข้ามามีบทบาทต่อตลาดแรงงานและวงการอุตสาหกรรม จนคาดการณ์กันว่า อีกไม่กี่ปีข้างหน้ามนุษย์จะถูก จักรกล แย่งงาน

การคาดการณ์ดังกล่าว ถูกตอกย้ำให้หนักแน่นขึ้นอีกเมื่อ นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ออกมาระบุว่า เทคโนโลยี 5G ที่มีความสำคัญกับการพัฒนาประเทศไทยในอนาคต ซึ่งจะทำให้เกิดการใช้เทคโนโลยี จะทำให้คนตกงานอีกร้อยละ10-30

ส่องความเสี่ยงสมองกลแย่งงานในอาเซียน

ผลการวิจัยของ International Labour Office ซึ่งทำการศึกษาในช่วง พ.ศ. 2558-2559 ถึงแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นกับอนาคตในอีก 10 ปีข้างหน้า หรือใน พ.ศ. 2568 เรื่อง “อาเซียนในยุคเปลี่ยนผ่าน : อนาคตตลาดงานท่ามกลางความเสี่ยงจากจักรกลอัตโนมัติ”  (ASEAN in transformation: The future of jobs at risk of automation) ที่สำรวจความคิดเห็น 4,000 บริษัท นักเรียนนักศึกษา 2,700 คน ในภูมิภาคอาเซียน และสำรวจเชิงลึกจากภาคผลิตและภาคบริการในกลุ่มอุตสาหกรรมต่าง ๆ จาก 5 ประเทศอาเซียน ได้แก่  กัมพูชา อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย และ เวียดนาม พบว่า ประเทศเวียดนามมีความเสี่ยงที่จะถูกระบบอัตโนมัติเข้าแทนที่แรงงานสูงสุดถึง 70% รองลงมาคือกัมพูชา 57% อินโดนีเซีย 56% ฟิลิปปินส์ 49% ส่วนไทยอยู่อันดับสุดท้ายที่ 44%

แม้ความเสี่ยงของไทยจะอยู่อันดับท้ายสุดใน 5 ประเทศ แต่ตัวเลข 44% ที่ปรากฏให้เห็นนั้น ถือว่าจะมีแรงงานเกือบครึ่งของปัจจุบันที่จะต้องตกงาน ซึ่งจากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ปัจจุบันไทยมีจำนวนแรงงานที่มีงานทำอยู่ประมาณ 37.5 ล้านคน นั่นหมายถึงในปี 2568 จะมีแรงงานไทยที่มีความเสี่ยงจะถูกแทนที่ด้วยจักรกลมากถึง 16.5 ล้านคน

เมื่อโฟกัสลงมาที่กลุ่มอุตสาหกรรมในประเทศไทย พบว่าใน ภาคผลิต อุตสาหกรรมที่มีความเสี่ยงที่แรงงานจะถูกแทนที่ด้วยระบบอัตโนมัติสูงสุด ได้แก่ กลุ่มเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มมีความเสี่ยงสูงถึง 79% รองลงมาคือคอมพิวเตอร์/อิเล็กทรอนิกส์ 75% และกลุ่มยานยนต์ 72% ส่วนใน ภาคบริการ กลุ่มค้าปลีกมีความเสี่ยงที่แรงงานจะถูกแทนที่ด้วยระบบอัตโนมัติถึง 69% กลุ่มโรงแรม 57% และธนาคาร 44%

บริษัทยักษ์ใหญ่ไทยขยับจับเครื่องกลแทนคนงาน

การนำเครื่องจักรกลมาทดแทนแรงงานคน ไม่เพียงช่วยลดความผิดพลาดที่เกิดจากมนุษย์ แต่ยังช่วยเพิ่มผลผลิตให้มากขึ้นได้อีกด้วย กระแสการนำ AI และระบบอัตโนมัติ เริ่มมีให้เห็นอย่างเด่นชัด โดยเฉพาะในกลุ่มบริษัทสินค้าอุปโภคระดับใหญ่ของไทย

ยักษ์ใหญ่อย่างบริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ ซีพี ซึ่งว่ากันว่า หากเปิดประตูบ้านประชาชนในประเทศไทย จะต้องเจอสินค้าจากบริษัทในเครือซีพีอยู่ในบ้านอย่างแน่นอน เริ่มนำระบบอัตโนมัติมาใช้ โดย นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์ เคยให้สัมภาษณ์ในรายการ Timeline ของนายสุทธิชัย หยุ่น เมื่อต้น พ.ศ. 2560 ว่า โรงงานของซีพีที่ประเทศเบลเยียมใช้คนงานผลัดละ 7 คน โรงงานผลิตอาหาร 3 ผลัด ใช้คนงานเพียง 21 คนเท่านั้น ระบบที่เหลือเป็นระบบอัตโนมัติหมด

“เราใช้แล้วในกระบวนการผลิต โรงงานก็ใช้ เกษตรก็ใช้ เกษตรหุ่นยนต์ก็ใช้แล้ว เพราะหุ่นยนต์จะแน่นอน แล้วไม่เหนื่อย แล้วตรวจได้ 24 ชั่วโมง ไฟหมดก็ไปชาร์จ ไม่มีการบ่น ไม่มีโอที แล้วแม่นยำ ถ้าไปตรวจไก่ 8 ชั้น ถ้าใช้คนไปดูก็ต้องก้มขึ้นก้มลง หุ่นยนต์ไปดูนี่ดูสองข้างเลย มีกล้องอยู่ 4 ตัว บันทึกไว้หมด ว่าน้ำขาดไหม อาหารพอไหม และสำคัญที่สุด ไก่มีตายไหม ถ้าเอาคนไปดู ดูไม่ออก อันนี้ใช้แสง เดินไปเดินมามีช่องว่าง ยังไงก็ต้องเจอ ถ้าอุณหภูมิมันเย็น (หุ่นยนต์) ก็มาร์กไว้แล้ว ชั้นไหน แถวไหน คนเลี้ยงดูง่าย ดูที่คอมพิวเตอร์ แล้วก็ไปหยิบไก่ตายออก โดยไม่ต้องมีคนสั่ง แค่นี้หุ่นยนต์ก็ทำหน้าที่นี้ นอกนั้นก็อัตโนมัติ ทั้งปอกเปลือกไข่ ทั้งแยกไข่แดงไข่ขาว ทุกอย่างไม่ใช้คน” นายธนินท์กล่าว

ทางด้าน “กลุ่มไทยเบฟเวอเรจ” ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องดื่มและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รายใหญ่ของไทย ได้จัดตั้งบริษัท “เบฟเทค” ขึ้นมาเพื่อศึกษาและพัฒนาเครื่องจักร – หุ่นยนต์ โดยมีเป้าหมายจะนำไปใช้กับโรงงานในเครือไทยเบฟในอนาคต ซึ่งปัจจุบันโรงงานในกลุ่มไทยเบฟ รวมกว่า 30 – 40 โรงงาน ยกระดับการผลิตนำระบบอัตโนมัติเครื่องจักรและหุ่นยนต์เข้ามาใช้ และจะทยอยนำระบบดังกล่าวมาใช้ให้ถึงระดับ 70 – 90% ของกระบวนการผลิตทั้งหมด โดย โรงงานโออิชิ ที่มีอยู่ 4 แห่ง ซึ่ง 3 แห่งทำหน้าที่ผลิตเครื่องดื่ม อีกหนึ่งแห่งผลิตอาหาร ได้นำระบบอัตโนมัติมาใช้ถึง 90% ขณะที่โรงงานเบียร์ 3 แห่ง ใช้ระบบ Automation 80% ส่วนโรงงานกลุ่มธุรกิจสุราและโรงงานเสริมสุขอยู่ที่ 50% เป็นสัญญาณว่ากลุ่มบริษัทไทยเบฟวางแนวทางไว้ชัดเจน ว่าจะนำเทคโนโลยีมาใช้แทนแรงงานคนในอนาคต

การมาของเทคโนโลยีสมัยใหม่อาจทำให้ชีวิต “ง่าย” ขึ้น แต่หากประชากรวัยแรงงานเกือบครึ่ง คือคนที่ต้องไร้งานทำในอนาคต การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในตลาดแรงงาน และการเตรียมพร้อมด้านการศึกษา เพื่อผลิตบัณฑิตให้สามารถยืนอยู่ในโลกที่จักรกลและเทคโนโลยีสมัยใหม่มีบทบาทมากขึ้น เป็นสิ่งที่ “รัฐบาล” และพวกเราทุกคนต้องเตรียมพร้อม เพื่อพลิกจากผู้ถูกอนาคตไล่ล่า มาเป็นผู้ไล่ล่าอนาคตแทนให้ได้

ข้อมูล :

https://www.ilo.org/wcmsp5/groups/public/—ed_dialogue/—act_emp/documents/publication/wcms_579554.pdf

https://brandinside.asia/what-is-5g-gsma/

https://m.mgronline.com/columnist/app-detail/9600000116464

https://www.brandbuffet.in.th/2017/05/thaibev-4-0-using-robot-and-automation-to-upgrade-factories/

http://statbbi.nso.go.th/staticreport/page/sector/th/02.aspx

ข่าวล่าสุด

ดูทั้งหมด

ที่นี่บราซิล! หญิงพาศพคุณลุงนั่งวีลแชร์ เข้าธนาคาร ไปกู้เงินแสน

อลหม่าน! สาวบราซิลพาศพลุงนั่งวีลแชร์ เข็นเข้าธนาคาร หวังเซ็นกู้เงินแสน เจ้าหน้าที่ จับโป๊ะ! ถูกรวบทันควัน อึ้งเสียชีวิตมาแล้วกว่า 3 ชั่วโมง

ปชช.เดือดร้อนหนัก! ป้ายรถเมล์ไม่อัปเดตข้อมูล สุดท้ายต้องเขียนกันเอาเอง

เดือดร้อนมาก! โซเชียลแห่แชร์ ภาพป้ายรถเมล์ที่ไม่อัปเดตสายรถเมล์ จนประชาชนต้องเขียนกันเอง ล่าสุด “สุริยะ” สั่งเร่ง อัปเดตข้อมูล

คิดจะต่อเติมระบียงบ้าน จุดไหนที่ต้องระวังก่อนสร้าง – มาดามฮวงจุ้ย

อ.นภัสวรรณ จิรเจริญเวศน์ เจ้าของเพจ มาดามฮวงจุ้ย ชี้ชัดทุกปัญหาพลิกชะตาด้วยฮวงจุ้ย เผย ฮวงจุ้ยระเบียงบ้าน จุดไหนควรมี จุดไหนไม่ควรสร้าง

จับตา! ‘อินโด’ เร่งอพยพ ปชช.นับหมื่น หลังภูเขาไฟ ‘รูอัง’ ปะทุ หวั่นสึนามิถล่ม

ระทึก! ทีมกู้ภัยอินโดนีเซียเร่งอพยพ ประชาชนนับหมื่นชีวิตออกจากพื้นที่เสี่ยง หลังภูเขาไฟ ‘รูอัง’ ปะทุครั้งใหญ่ หวั่นสึนามิซัด

ฟาดเคราะห์แทนผู้ใหญ่! เด็ก10 ขวบ โดนยิงจากในป่า เผยปมเหตุสุดอนาถ

ล่ามือปืน! ลากลูกซองซุ่มยิงจากในป่าข้างขนำ กระสุนเข้าท้ายทอยเด็ก 10 ขวบ ก่อนหลบหนี คาดปม ปัญหาที่ดิน หลังพ่อแม่ไปเรียกร้องขอที่ดินทำกิน

“หมอช้าง” เตือน! 2 ราศี มีปัญหาสุขภาพ ต้องหมั่นดูแลเป็นพิเศษ

หมอช้าง ทศพร ศรีตุลา เผย ดวงเมษายน 2567 : 2 ราศี ต้องระวัง! ชีวิตกำลังจะเจออุปสรรคทางสุขภาพร่างกาย
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า