กระทรวงแรงงาน ลดขั้นตอนขออนุญาตทำงานและออกใบอนุญาตทำงานให้ต่างด้าว ให้ยื่นขอผ่าน Single Window ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน ลดเอกสาร ปลอมแปลงยาก พกพาง่าย
พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานเปิดการประชุมชี้แจงนายจ้าง/สถานประกอบการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน เรื่องการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวว่า รัฐบาลวางแผนประเทศระยะยาว ภายใต้นโยบาย “ไทยแลนด์ 4.0” ที่มุ่งเน้นการปรับเปลี่ยนโครงสร้างทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไปสู่เป้าหมาย “มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” ด้วยเทคโนโลยี นวัตกรรม และความคิดสร้างสรรค์ รวมถึงการยกระดับการให้บริการภาครัฐให้เกิดความเชื่อมโยง แลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยงาน ลดการใช้เอกสารซ้ำซ้อน มุ่งสู่การเป็น Smart Thailand ในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อให้บริการแบบที่เดียว ทันใด ทั่วไทย ทั่วโลก ทุกเวลา
ทั้งนี้ กรมการจัดหางานได้ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กำหนดกระบวนการยื่นคำขออนุญาตทำงาน และออกใบอนุญาตทำงานผ่านระบบ Single Window for Visa and Work Permit สำหรับคนต่างด้าวที่ทำงานในสถานประกอบการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน ซึ่งเป็นการอำนวยความสะดวกในการยื่นขออนุญาตทำงาน ลดขั้นตอน ลดเวลาการยื่นเอกสาร ลดเจ้าหน้าที่ ลดเอกสาร มีการพิจารณาที่เป็นมาตรฐานและโปร่งใส สำหรับใบอนุญาตทำงานของคนต่างด้าวนั้น จะไม่เป็นเล่มเอกสารหรือบัตรแข็งอีกต่อไป แต่จะเป็นใบอนุญาตทำงานแบบดิจิตอล (Digital Work Permit) บนโทรศัพท์มือถือแบบสมาร์ทโฟน ซึ่งสะดวกต่อการพกพา สามารถตรวจสอบได้ด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ยากต่อการปลอมแปลง และไม่มีการสูญหาย
“เมื่อคนต่างด้าวยื่นคำขออนุญาตทำงานผ่านระบบ Single Window กรมการจัดหางานและ BOI จะพิจารณาอนุญาตในระบบและแจ้งผลการพิจารณาทาง E-mail เมื่อคนต่างด้าวได้รับการอนุญาตแล้วจะต้องมาแสดงตนเพื่อชำระค่าธรรมเนียม และถ่ายรูปลงลายมือชื่อ Digital เพื่อจะได้ Username และ Password เพื่อลงทะเบียนใน Application ชื่อ Thailand Digital Work Permit ใช้ได้ทั้งระบบ IOS และ Android เมื่อลงทะเบียนเรียบร้อยแล้วจะปรากฏ Digital Work Permit บนโทรศัพท์มือถือของคนต่างด้าว” พล.ต.อ.อดุลย์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวอีกว่า ขณะนี้ศูนย์ให้บริการการอนุญาตอยู่ในราชอาณาจักร และการอนุญาตทำงานให้กับแรงงานในกลุ่ม BOI มี 3 แห่งคือ ที่กรุงเทพมหานคร (จามจุรีสแควร์) จ.เชียงใหม่ และภูเก็ต และได้มีแผนขยายการให้บริการระบบ Single Window ในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC) ซึ่งประกอบไปด้วยจังหวัดระยอง ชลบุรี และฉะเชิงเทรา สนองนโยบายรัฐบาลมีนโยบายในการเร่งพัฒนาความพร้อมในทุกด้าน เพื่อรองรับการลงทุนและการขยายตัวทางเศรษฐกิจในพื้นที่ ทั้งด้านสาธารณูปโภค ระบบคมนาคมขนส่ง และโลจิสติกส์ การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และการอำนวยความสะดวกในรูปแบบ One Stop Service เพื่อสนับสนุนการประกอบธุรกิจให้มีความสะดวก รวดเร็ว และจะขยายการบริการครอบคลุมทุกจังหวัดทั่วประเทศ ภายในปี 2562 สามารถให้บริการแรงงานต่างด้าวที่ทำงานในสถานประกอบการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ซึ่งมีอยู่ประมาณ 22,753 แห่ง แรงงานรวม 83,000 คน เป็นผู้เชี่ยวชาญ ชำนาญการประมาณ 45,000 คน และ กลุ่มแรงงานไร้ฝีมือ 3 สัญชาติ ประมาณ 38,000 คน