น่าจะทำให้ใครหลายคน รู้สึกหนาวๆร้อนๆ กันพอสมควร เมื่อ “เดชนัฐวิทย์ เตริยาภิรมย์” ลูกชายคนที่ 2 ของ “บุญทรง เตริยาภิรมย์” อดีต รมว.พาณิชย์ ตัดสินใจลาออกจากพรรคเพื่อไทย ตั้งแต่วันที่ 13 พ.ย.ที่ผ่านมา เพราะรู้สึกลำบากใจที่ “พรรคและผู้ใหญ่บางคน ไม่เชื่อใจซึ่งกันและกัน”
และเตรียมเข้าซบอ้อมอกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในสังกัด “กลุ่มสามมิตร” หลังจากได้รับการทาบทามจาก 2 แกนนำคนเคยรักทักษิณ อย่าง “สมศักดิ์ เทพสุทิน” และ “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” ตามรอย “วราเทพ รัตนากร” อดีตรมต.ประจำสำนักนายกฯ สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ สังกัดกลุ่ม “วังบัวบาน” ซึ่งลาออกยกก๊วนไปอยู่พปชร.เช่นกัน
งานนี้ไม่ธรรมดา และน่าจะทำให้แกนนำพรรคเพื่อไทยบางคนออกอาการ “นั่งเก้าอี้ไม่ติด”
เพราะการย้ายพรรคของ “เดชนัฐวิทย์” เท่ากับปลดเงื่อนไขให้ผู้เป็นพ่ออย่าง “บุญทรง” ซึ่งถูกจองจำในคดีทุจริตขายข้าวจีทีจี “ล็อตแรก” เปิดปากพูดเกี่ยวกับคดีทุจริตขายข้าวจีทูจีได้อย่างสะดวกใจ หลังปิดเงียบมานาน
เส้นทางชีวิตการเมืองของ บุญทรง เริ่มต้นเป็นส.ส.สมัยแรก เมื่อปี 2544 ในสังกัด “วังบัวบาน” ของ “เจ๊แดง-เยาวภา วงศ์สวัสดิ์” แกนนำพรรคไทยรักไทยและพรรคเพื่อไทย น้องสาวของ “ทักษิณ ชินวัตร” และพี่สาวของ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” 2 พี่น้องอดีตนายกฯ ซึ่งกำลังระหกระเหเร่ร่อนอยู่ต่างแดนในตอนนี้
บุญทรง ถือได้ว่าเป็นคนสนิทของ “เจ๊แดง-เยาวภา” คนหนึ่ง และก่อนที่ขึ้นชั้นเป็น “รมช.คลัง” ในปี 2554 และ “รมว.พาณิชย์” ในปี 2555 บุญทรง เคยเป็นเลขานุการส่วนตัวของ “สมชาย วงศ์สวัสดิ์” อดีตนายกฯ สามีของ “เจ๊แดง-เยาวภา”
เส้นทางการเมืองของ บุญทรง ตั้งแต่ไต่เต้าเป็น ส.ส. และจาก ส.ส. กลายเป็นรัฐมนตรี ล้วนแล้วแต่อาศัยบารมี “เจ๊แดง-ตระกูลชินวัตร” แต่สุดท้าย บุญทรง ต้องจบชีวิตทางการเมืองด้วยการติดคุก 42 ปี จากโครงการรับจำนำข้าว ที่ “ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ” ซึ่งนั่นทำให้ตระกูล “เตริยาภิรมย์” รู้สึกสะเทือนใจอยู่ไม่น้อย เพราะรู้แก่ใจดีว่าหัวหน้าครอบครัวอย่าง บุญทรง เป็นแค่ “ตรายางประทับ” ในคดีทุจริตขายข้าวจีทูจี
การเปลี่ยนเส้นทางการเมืองของ “เดชนัฐวิทย์” โดยการปลีกตัวออกจากร่มธง “เพื่อไทย” และ “ชินวัตร” แม้ว่าจะไม่ทำให้ บุญทรง หลุดพ้นจากเรือนจำ แต่นั่นก็ทำให้ “บุญทรง” ไม่ต้องลำบากใจอะไร หากจะต้องซัดทอดถึง “จอมบงการ” ที่ชักใยอยู่เบื้องหลังการทุจริตขายข้าวจีทูจีทุกเม็ด แลกกับความสะดวกสบายที่จะได้รับในช่วงบั่นปลายชีวิต
ไม่ว่าจะเป็น “เจ๊ ด.” ซึ่ง “หมอวรงค์ เดชกิจวิกรม” อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายเปิดประเด็นไว้ในสภาฯเมื่อปี 2556 ว่า เป็นผู้มีอิทธิพล ที่มีสายสัมพันธ์แนบแน่นกับรัฐบาล และชักใยอยู่เบื้องหลังโครงการรับจำนำข้าว ผ่านตัวละครอย่าง “หมอโด่ง” พ.ต.นพ.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ อดีตเลขานุการ รมว.พาณิชย์ ซึ่งหนีคดีไปแล้วและยังตามตัวไม่เจอ
แม้กระทั่งคนแดนไกล “นักการเมืองใหญ่” ซึ่งหากพ่อค้าข้าวคนไหน ต้องการซื้อข้าวสารราคาถูกๆจากสต็อกรัฐบาล แล้วนำออกมาเร่ขายแพงๆในราคาตลาด ต้องไปบินไปขอถึงเมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ทั้งๆที่โกดังข้าวตั้งอยู่ในเมืองไทย
หากจะว่าไปแล้ว การเปลี่ยนขั้วทางการเมืองของตระกูล “เตริยาภิรมย์” ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เพราะเมื่อไม่ถึง 2 เดือนก่อนหน้านี้ คณะอนุกรรมไต่สวนข้อเท็จจริงคดีทุจริตขายข้าวจีทูจี “ล็อตสอง” 8 สัญญา 14 ล้านตัน ของ ป.ป.ช. เตรียมกล่าวหาบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องเพิ่มเติม มีการกล่าวถึงชื่อ “ทักษิณและเครือญาติ” ซึ่งหมายรวมถึง “เจ๊แดง-เยาวภา”
เพียงแต่ยังไม่ได้พยานปากเอก มีเพียงกระแสข่าวลือที่ว่า กรรมการป.ป.ช.บางคน ลงทุนเข้าไปพูดคุยกับ บุญทรง ถึงในเรือนจำ เพื่อขอให้ซัดทอดไปถึงผู้บงการคดีทุจริตขายข้าวตัวจริง
มีการเจรจาต่อรองว่าหาก บุญทรง ให้การซัดทอดถึงบุคคลที่สั่งการอยู่เบื้องหลังในคดีทุจริตขายข้าว ก็จะส่งตัว บุญทรง ไปพักรักษาตัวที่รพ.ตำรวจ ไม่ต้องไปนอนเบียดเสียดอยู่ในคุกร่วมกับผู้ต้องขังในคุกห้องละ 40-50 คน ซึ่ง บุญทรง เองก็มีท่าทีตอบรับข้อเสนอนี้
เมื่อทุกอย่างลงล็อก ข้อตกลงเป็นที่พอใจด้วยกันทั้งสองฝ่าย ก็ไม่แคล้วที่ข่าวลือจะกลายเป็นความจริง
ในขณะที่ท่าทีของ “พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ” ประธาน ป.ป.ช. เหมือนจะยอมรับว่า คดีทุจริตขายข้าวจีทูจีอาจมีผู้ถูกกล่าวหาเพิ่มเติมอีก แม้จะไม่มีการยืนยันว่าเป็น “ทักษิณและเจ๊แดง-เยาวภา” หรือไม่ก็ตาม
“ถ้าเกี่ยวข้องกับใคร มีพยานหลักฐานอย่างไร เวลา ป.ป.ช.จะดำเนินการผู้ที่เกี่ยวข้องก็ต้องมาเข้ากระบวนการไต่สวน ซึ่งต้องเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องจริงๆ แต่ถ้าไม่เกี่ยวข้องจริง ป.ป.ช.คงไม่สั่งไต่สวนเพิ่มเติม” พล.ต.อ.วัชรพล ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 12 พ.ย.ที่ผ่านมา
แม้ว่าตอนนี้ บุญทรง จะยังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ เพื่อรอเข้ารับการผ่าตัดรักษาโรคหมอนรองกระดูกอักเสบ ซึ่งมีสาเหตุจากหินปูนขึ้นกระดูก ที่โรงพยาบาลตำรวจ และแม้ว่าจะเดินไม่ได้ ต้องนั่งรถเข็น แต่ยามนี้กำลังใจของ บุญทรง น่าจะเต็มเปี่ยมไปด้วยความหวัง
อีกไม่ช้าคณะกรรมการ ป.ป.ช. จะชี้มูลความผิดคดีทุจริตขายข้าวจีทูจล็อตสอง และไม่น่าแปลกใจอะไร หากจะมีชื่อ “ทักษิณ” และ “เจ๊แดง-เยาวภา” ตกเป็นจำเลยในคดีนี้ ท่ามกลางเกมส์ชิงชัยเลือกตั้งลังใกล้เข้าสู่จุดเดือดมากขึ้นทุกที