ราชทัณฑ์ ส่ง “ธาริต” ขังแดนแรก 2 สัปดาห์ ก่อนแยกแดนใหม่ พร้อมส่งปรับสภาพจิตใจ ยันไม่ได้สิทธิพิเศษ
วันที่ 14 ธ.ค. พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันท์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงการคุมขังนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) พายหลังศาลมีคำพิพากษาจำคุก 1 ปีในคดีหมิ่นประมาทนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในความผิดหมิ่นประมาท คดีก่อสร้างโรงพักทดแทน 396 แห่งว่า การคุมขังผู้ต้องหาจะไม่ได้รับสิทธิพิเศษใดๆ โดยการควบคุมตัวจะเป็นไปตามระเบียบของทางราชการ ผู้ต้องขังทุกรายมีสิทธิเท่าเทียมกัน เมื่อนายธาริตถูกส่งตัวเข้ามาที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพตามขั้นตอนจะต้องถ่ายภาพ ทำประวัติ ผู้ต้องขังใหม่ ตรวจร่างกาย ว่ามีโรคประจำตัวที่เป็นอันตรายร้ายแรงหรือไม่ โดยเฉพาะนักโทษที่มีเกณฑ์อายุตั้งแต่ 60 ขึ้นไปมักจะมีโรคประจำตัวแต่ผู้ต้องขังสามารถนำใบรับรองแพทย์มาแสดง เพื่อนำยาที่แพทย์จัดให้เข้ามารักษาอาการป่วยตัวเองได้
“หากมีอาการเจ็บป่วยภายในเรือนจำ สามารถเข้าถึงสิทธิการรักษาพยาบาลได้ตามปกติ หรือกรณีที่อาการเจ็บป่วยไม่ร้ายแรงก็สามารถรักษาภายในแดนพยาบาลได้ยกเว้นกรณีเจ็บป่วยหนักต้องถูกส่งตัวไปทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์”พ.ต.อ.ณรัชต์ ระบุ
พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ เมื่อเสร็จสิ้นการรับตัวผู้ต้องขังใหม่ผู้คุมเรือนจำจะนำตัวผู้ต้องหาเข้าไปคุมภายแดนแรกรับเพื่ออบรมระเบียบวินัยและกฎของเรือนจำเพื่อให้ผู้ต้องขังใหม่ปรับตัวไม่กระทำผิดวินัยหรือฝ่าฝืนกฎระเบียบของเรือนจำ ซึ่งถือเป็นปกติที่ผู้ต้องขังใหม่จะต้องใช้เวลาปรับตัวทำใจรับสภาพความเป็นอยู่ภายในเรือนจำและเพื่อนผู้ต้องขังโดยเบื้องต้น จะให้ผู้ต้องขังพักอยู่ในแดนแรกรับประมาณ 2 สัปดาห์ จากนั้นจึงจะจำแนกให้ไปแดนคุมขังตามความเหมาะสมต่อไป