วันนี้ ( 17 ธ.ค.) สำนักงานศุลกากรจังหวัดนครพนม สะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 3 (นครพนม-คำม่วน) พ.ต.อ.ณรัชต์พล เลิศรัชตะปภัสร์ นายด่านศุลกากรจังหวัดนครพนม พร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครพนม รวมถึงเจ้าหน้าที่ป่าไม้ด่านตรวจสัตว์ป่านครพนม ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานเกี่ยวข้อง ได้ตรวจยึดการลักลอบนำเข้างาช้าง และจับกุม นางทัน เหวียน กี่ ทัน อายุ 43 ปี เป็นชาวเมืองฮาติง ประเทศเวียดนาม พร้อมของกลาง งาช้าง ที่ตัดเป็นชิ้นส่วน และมีการแปรรูปเป็นเครื่องประดับ ประกอบด้วยกำไลแขน สร้อยลูกปัด จำนวนทั้งหมด 930 ชิ้น รวมน้ำหนัก 22 กิโลกรัม คิดมูลค่าเป็นเงินไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท
โดยการตรวจยึดครั้งนี้สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่สืบทราบว่า จะมีการลักลอบนำเข้าสินค้าผิดกฎหมายจากประเทศเพื่อนบ้าน นำเข้าจาก แขวงคำม่วน สปป.ลาว เมื่อช่วงเย็นของเมื่อวาน (16พ.ย.) ที่ผ่านมา จนกระทั่งมีการตรวจสอบพบกระเป๋าเดินทางต้องสงสัยในช่องที่เก็บสัมภาระรถยนต์โดยสารระหว่างประเทศ (นครพนม-ท่าแขก) หมายเลขทะเบียน บก 0899 คำม่วน ซึ่งมาจอดรอตรวจสอบเอกสาร ขาเข้า
เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบ พบเป็นชินส่วนงาช้าง รวมถึง เครื่องประดับงาช้างหลายหลายการ จึงควบคุมตัวเจ้าของ คือ นางทัน เหวียน กี่ ทัน ชาวเมืองฮาติง ประเทศเวียดนาม มาสอบสวนหาที่มา และตรวจยึดเป็นหลักฐานของกลาง เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา ตาม พ.ร.บ.งาช้าง พ.ศ.2558 มาตรา 5 นำเข้า ส่งออก หรือนำผ่านซึ่งงาช้าง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากอธิบดี อัตราโทษปรับไม่เกิน 6 ล้านบาท จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ และ มาตรา 6 มีไว้ในครอบครองซึ่งงาช้าง โดยไม่ได้รับอนุญาต อัตราโทษปรับไม่เกิน 3 ล้านบาท แล้วนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
โดย พ.ต.อ.ณรัชต์พล เลิศรัชตะปภัสร์ นายด่านศุลกากรจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า สำหรับงาช้างดังกล่าว ถือเป็นครั้งแรก ที่มีการตรวจยึดจับกุมในพื้นที่ จ.นครพนม ซึ่งก่อนนี้เคยตรวจยึดในพื้นที่ จ.หนองคาย ในช่วงกลางปีที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าจะมีการลักลอบ ลำเลียงมาทางพื้นที่ภาคอีสาน เพื่อนำส่งนายทุนในไทยไปขายตลาดมืด ซึ่งจะมีการแปรรูป เป็นกำไล สร้อยลูกปัด เพื่อนำไปเป็นเครื่องประดับ รวมถึงเครื่องราง บางส่วนยังเป็นงาช้างที่ตัดเป็นชิ้นขนาดเล็กเพื่อจะนำไปแกะสลัก
จากการสอบสวนผู้ต้องหาชาวเวียดนาม ให้การรับสารภาพว่า มีอาชีพค้าขาย ขณะเดินทางมากับรถโดยสารก่อนขึ้นรถ ได้มีคนมาว่าจ้าง ให้นำกระเป๋าสิ่งของติดไปกับรถโดยสาร ให้ค่าจ้าง 2,000 บาท และให้นำลงไว้ที่ สถานีขนส่งผู้โดยสาร จ.นครพนม และจะมีคนมารับ แต่ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อคาดว่า จะทำเป็นขบวนการ อาศัยลักลอบนำเข้ามาแบบกองทัพมด และจะมีการลักลอบนำเข้าตามช่องทางต่างๆ
สำหรับราคาซื้อขายในตลาดมืดจะมีการซื้อขายกิโลกรัมละ ประมาณ 50,000 – 60,000 บาท เนื่องจากช่วงนี้มีการเข้มงวดจับกุม ยิ่งมีราคาแพง โดยจะได้มีการสอบสวนขยายผลหาที่มา โดยการลักลอบคาดว่าจะเข้ามาจากเวียดนาม ผ่านลางเข้าชายแดนไทย สันนิษฐานส่วนใหญ่จะเป็นงาช้างแอฟริกา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้เพิ่มมาตรการเข้มในการสกัดกั้นปราบปรามการลักลอบนำเข้ามากขึ้น