อธิบดีกรมอุตุฯ ระบุ 4 ม.ค. พายุปาบึก น่ากลัวมากที่สุด มีโอกาสหมุนทุกทิศทุกทาง เตือนประชาชนพื้นที่เสี่ยงอพยพโดยด่วน
2 ม.ค. 2562 นายภูเวียง ประคำมินทร์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา แถลงสถานการณ์ พายุปาบึก ที่กำลังเคลื่อนตัวเข้าฝั่งทางตอนใต้ของไทย ว่า ขณะนี้พายุยังเคลื่อนตัวอยู่บริเวณบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่าง ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยในช่วง 3- 5 ธ.ค. 2562 พายุปาบึกจะเคลื่อนตัวเข้าทางภาคใต้ของไทย
โดยในวันที่ 3 ธ.ค. จะเข้าฝั่งอ่าวไทยซึ่งจะได้รับผลกระทบก่อน หลังจากนั้นในวันที่ 4 ม.ค. ซึ่งจะเป็นวันที่น่ากลัวมากที่สุด เนื่องจาก พายุปาบึก จะขึ้นฝั่งดังนั้นจุดที่ต้องระวัง ถ้าประชาชนอยู่ทางน้ำไหล หรือเสี่ยงดินถล่ม หรือน้ำท่วมฉับพลัน บ้านเรือนไม่แข็งแรง ควรย้ายออกจากจุดนั้น ซึ่งแรงหมุนของพายุปาบึก หากว่าแรงลมหนุนช้าแนวทางก็จะเหวี่ยงไปได้ทุกทิศทุกทาง แต่ถ้าหมุนเร็ว แนวทางการเดินทางของของพายุก็จะมั่นคง
นายภูเวียง กล่าวต่อว่า พายุโซนร้อนปาบึก ที่ก่อตัวขึ้นนับเป็นพายุลูกแรกที่ก่อตัวขึ้นตั้งแต่ต้นปี 2562 ซึ่งทางกรมอุตุนิยมวิทยา คาดว่าจะมีความเร็วแรงของลมไม่แตกต่างกับ “พายุแฮเรียต” ที่เคยเกิดขึ้นที่แหลมตะลุมพุก ในช่วงปีพ.ศ 2505 ซึ่งในครั้งนั้นได้สร้างความเสียหายเป็นอย่างมาก แต่สำหรับในยุคนี้เรามีเครื่องมือที่ทันสมัยมากขึ้น ทำให้สามารถพยากรณ์และมีการเตรียมความพร้อมให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ศูนย์กลางของพายุ ได้เตรียมพร้อมรับมือ
ขณะที่ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หลังกรมอุตุนิยมวิทยาได้ประกาศเตือนให้เฝ้าระวังพายุโซนร้อน “ปาบึก” เคลื่อนตัวลงในพื้นที่อ่าวไทยระหว่างวันที่ 3-5 ม.ค.62 ซึ่งจังหวัดนครศรีธรรมราชจะได้รับผลกระทบจากพายุลูกดังกล่าว ขณะที่ชาวประมงบางพื้นที่ได้ขนย้ายเรือไปไว้ในที่ปลอดภัย และแทนขุดเจาะปิโตรเลี่ยมได้อพยพบุคลากรเข้าฝั่งแล้วเช่นกัน
โดยนายจำเริญได้แจ้งให้อำเภอต่างๆ ที่อยู่ริมทะเลคือ อ.ขนอม, สิชล, ท่าศาลา, เมือง, ปากพนัง และอ.หัวไทร ให้ติดตามการพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด หากจำเป็นต้องอพยพชาวบ้านให้ไปอยู่ในที่ปลอดก็ให้ดำเนินการทันที และบูรณาการร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเตรียมอุปกรณ์การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ซึ่งพยากรณ์อากาศได้แจ้งว่าระหว่างวันที่ 3-5 ม.ค.62 จะมีคลื่นลมสูง 3-5 เมตร เสี่ยงต่อความปลอดภัยคนที่อาศัยตามแนวชายหาดใน 6 อำเภอดังกล่าว
นายจำเริญ ระบุว่า การอพยพชาวบ้านต้องประเมินสถานการณ์ด้วยว่าจะห่างไกลพื้นที่เสี่ยงพอหรือไม่ แรงลมของพายุตนนี้เรายังประเมินไม่ออกว่าจะแรงขนาดไหน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรือประมงห้ามออกจากฝั่งในระยะนี้อย่างเด็ดขาดตั้งแต่ตอนนี้ไปจนถึงวันที่ 6 ม.ค.62 โดยให้ทางนายอำเภอทำความเข้าใจกับชาวประมงด้วย นอกจากนั้นในพื้นที่ อ.ขนอม ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญขอให้ดูแลนักท่องเที่ยวอย่างใกล้ชิดต่อไปด้วย