ขสมก.ขึ้นค่าโดยสารรถเมล์ร้อน-รถเมล์ปรับอากาศ 1.5-2 บาท มีผล 21 ม.ค.นี้ ด้าน รองอธิบดีกรมการขนส่งฯ ลุ้นรัฐบาลออกมาตรการตรึงค่าโดยสารรถเมล์
เมื่อวันที่ 9 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ออกประกาศ ขสมก. เรื่อง การปรับปรุงอัตราค่าโดยสาร โดยระบุว่า ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางครั้งที่ 10/2561 เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.2561 มีมติให้ปรับปรุงอัตราค่าโดยสารรถประจำทางสาธารณะ ดังนั้น ขสมก. จึงขอปรับปรุงค่าโดยสาร ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ม.ค.2562 เป็นต้นไป ดังนี้
1.รถโดยสารธรรมดา (ครีม-แดง) อัตราค่าโดยสารอยู่ที่ 8 บาทตลอดสาย จากเดิม 6.50 บาทตลอดสาย
2.รถโดยสารปรับอากาศ (ครีม-น้ำเงิน) ได้แก่ รถโดยสารปรับอากาศ (ครีม-น้ำเงิน) อัตราค่าโดยสารอยู่ที่ 12-20 บาทตามระยะทาง จากเดิม 10-18 บาท ตามระยะทาง ,รถโดยสารปรับอากาศ (ยูโรทู สีส้ม) อัตราค่าโดยสารอยู่ที่ 13-25 บาทตามระยะทาง จากเดิม 11-23 บาทตามระยะทาง
และรถปรับอากาศใหม่ (สีฟ้า) ระยะทาง 4 กม.แรก อัตราค่าโดยสารไม่เกิน 15 บาท, ระยะทาง 4-16 กม. อัตราค่าโดยสารไม่เกิน 20 บาท, ระยะทาง 16 กิโลเมตรขึ้นไป อัตราค่าโดยสารไม่เกิน 25 บาท
3.ค่าทางด่วนของรถโดยสารปรับอากาศ กรณีที่ผู้โดยสารใช้ทางด่วน ให้กำหนดค่าโดยสารเพิ่มขึ้นจากค่าโดยสารปกติ 2 บาทต่อคนต่อเที่ยว
นายกมล บูรณพงศ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก ให้สัมภาษณ์ “ไบรท์ทีวีออนไลน์” ว่า การปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารรถเมล์ขสมก.ดังกล่าว เป็นไปตามมติของคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.2561 ที่มีมติให้ปรับขึ้นค่าโดยสารรถเมล์ตั้งแต่วันที่ 21 ม.ค.2562 เป็นต้นไป ขณะที่การปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารดังกล่าว จะครอบคลุมไปถึงรถร่วมบริการ ขสมก.ด้วย
“การอนุญาตให้ปรับขึ้นค่าโดยสารรถเมล์ขสมก.และรถร่วมขสมก. เป็นอำนาจของคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง ไม่จำเป็นต้องได้รับการอนุมัติจากรมว.คมนาคม หรือคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก่อนแต่อย่างใด เพียงแต่ว่า หากรัฐบาลจะมีมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการรถเมล์ เช่น การจัดหาน้ำมันราคาพิเศษให้ ทางคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง ก็จะต้องพิจารณาทบทวนการปรับขึ้นค่าโดยสาร แต่ถ้ารัฐบาลยังไม่มีมาตรการใดๆออกมา ก็ต้องขึ้นค่าโดยสารรถเมล์ตามมติที่ประชุม”นายกมลกล่าว