“วิษณุ” เผยพระราชพิธีบรมราชาภิเษก แบ่งเป็น 3 ช่วง เริ่มต้น 6 เม.ย. ตั้งคกก. 7 ชุดเตรียมจัดงาน สมเด็จพระเทพฯ เสด็จเป็นองค์ประธานประชุม 26 ม.ค.
10 ม.ค.62-นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ว่า ที่ประชุมได้รับทราบความคืบหน้าในการดำเนินการเตรียมการจัดงานแล้ว กว่าร้อยละ 50 โดยในวันที่ 26 ม.ค. เวลา 17.30 น. จะมีการประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ซึ่งสมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดาสยามบรมราชกุมารี ในฐานะองค์ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการ จะเสด็จมาเป็นประธานในที่ประชุม ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล โดยการประชุมวันนี้จะได้นำความกราบบังคมทูล รวมถึงในบางเรื่องที่จะต้องขอพระราชวินิจฉัยจากสมเด็จพระเทพฯ จึงยังไม่สามารถจะเปิดเผยในรายละเอียดได้ แต่เบื้องต้นมีหมายกำหนดการออกมาแล้วว่า พระราชพิธีนั้นจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน 1.ส่วนที่เป็นการเตรียมการเบื้องต้น 2.ส่วนที่เป็นพระราชพิธีเบื้องกลาง และ 3.ส่วนที่เป็นกิจกรรมต่อเนื่องเบื้องปลาย
นายวิษณุ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ในพิธีเบื้องต้นจะดำเนินการตลอดเดือนเม.ย. ตั้งแต่วันที่ 6 เม.ย. จะเริ่มจากพิธีพลีกรรม คือพิธีตักน้ำมาจากแหล่งแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งจะทำไปอย่างต่อเนื่องจนถึงสิ้นเดือนเม.ย. หรือไปต่อจนถึงเดือนพ.ย.อีกประมาณ 2 วัน จากนั้นจะเข้าสู่พิธีเบื้องกลาง ซึ่งเป็นงานพระราชพิธี ในวันที่ 4 วันที่ 5 วันที่ 6 วัน โดยสำคัญที่สุดวันที่ 4 พ.ค.เป็นวันบรมราชาภิเษก ซึ่งในปีนี้ถือเป็นวันบรมราชาภิเษก แต่ตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไปจะเป็นวันระลึกถึงวันบรมราชาภิเษกคือวันฉัตรมงคล ส่วนกิจกรรมเบื้องปลายนั้น โดยหลังวันพระราชพิธีพืชมงคลจะเป็นกิจกรรมในส่วนของรัฐบาลและประชาชน ที่จะจัดน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวาย ซึ่งหลายอย่างต้องรอให้คณะกรรมการที่เกี่ยวข้องเข้าไปหารือกันอีกครั้ง
นายวิษณุ กล่าวด้วยว่า สำหรับคณะกรรมการอำนวยการจัดงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก จะประชุมอีกครั้งในวันที่ 26 มี.ค. มีสมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดาสยามบรมราชกุมารีในฐานะองค์ประธานที่ปรึกษา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานคณะกรรมการ มีประธานองคมนตรี ประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา แบ่งออกเป็น 7 คณะกรรมการต่างๆ ประกอบด้วย 1.คณะกรรมการฝ่ายพิธีการ 2.คณะกรรมการฝ่ายรักษาความปลอดภัย 3.คณะกรรมการฝ่ายโครงการต่างๆ 4.คณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์ 5.คณะกรรมการฝ่ายกลั่นกรองการเสนองบประมาณ 6.คณะกรรมการด้านจัดทำจดหมายเหตุ และ 7.คณะกรรมการด้านประสานงาน