จากกรณีที่มีคลิปเหตุรุมทำร้ายร่างกาย ชายไม่ทราบชื่อในสภาพโชกเลือด ซึ่งคลิปดังกล่าว เป็นคลิปที่แก๊งของนายอรรถพล หรืออาร์ต ชัยสอน ฉายาอาร์ตลาย พร้อมพวกรุมทำร้ายชายไม่ทราบชื่อผิดคน และปล้นเอารถจักรยานยนต์ 1 คัน ซึ่งผู้เสียหาย ได้แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บ้านเป็ด เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2562 ที่ผ่านมานั้น
วันนี้ (19ม.ค.62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากมีคลิปถูกเผยแพร่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เรียกตัวผู้เสียหายที่ได้เข้ามาแจ้งความรถจักรยานยนต์หาย ทราบชื่อนายกิตติพัฒน์ คำพิลา หรือนายต้า
อายุ 25 ปี อยู่ ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น มาสอบสวน จนทราบว่า ไม่รู้จักกับกลุ่มผู้ต้องหา
แต่ที่ไปตามนัด เพราะต้องการกู้ยืมเงิน แต่เมื่อไปถึงที่นัดหมายกลับพบวัยรุ่นประมาณ 5 คนยืนถือไม้เบสบอล และท่อนไม้ยืนอยู่หน้าบ้าน จึงจอดรถจักรยานยนต์แล้วทำทีเดินไปปัสสาวะข้างทาง กลุ่มผู้ต้องหาจึงเข้าทำร้ายเพื่อนที่ไปด้วยกัน ทราบชื่อคือ นายบุญจันทร์ สิงห์สาย อายุ 52 ปี
อยู่ อ. เมือง จ.พิษณุโลก จึงได้ติดตามตัวนายบุญจันทร์ มาสอบสวน
จากการสอบสวนทราบว่า นายบุญจันทร์ มีอาชีพเผาถ่านขายอาศัยอยู่ในชุมชนริมทางรถไฟพื้นที่บ้านหนองไผ่ ต.ศิลา รู้จักกับนายต้า เพราะอยู่ในชุมชนเดียวกัน ก่อนเกิดเหตุช่วงหัวค่ำวันที่ 9 มกราคม นายต้า ชวนให้นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ไปเป็นเพื่อน โดยนายต้า อ้างว่าจะไปจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้รายวัน เมื่อขับขี่รถจักรยานยนต์ไปถึงหน้าบ้านหลังหนึ่งริมถนนเลี่ยงเมือง พื้นที่บ้านเป็ด ต.บ้านเป็ด นายต้าจอดรถจักรยานยนต์ จากนั้นก็หายตัวไปเหลือเพียงนายบุญจันทร์ ที่ถูกพรรคพวกของนายอาร์ตรุมทำร้าย แต่เมื่อรู้ว่าทำร้ายผิดตัว จึงปล่อยตัวไป แต่ยึดเอารถจักรยานยนต์ของนายต้า ไว้
พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิสมัย ผกก.สภ.บ้านเป็ด กล่าวว่า จากการตรวจสอบประวัติของนายบุญจันทร์ ไม่มีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติดแต่อย่างใด จึงเชื่อว่านายต้า รู้ตัวก่อนจึงหลบหนีไปได้อย่างรวดเร็ว จากนั้นก็มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าถูกปล้นเอารถจักรยานยนต์ไป
ซึ่งในทางการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมทั้งคำให้การของ นายอาร์ต ทราบว่า รับว่าได้ค่าจ้างจากเทพโซโล ให้ทำร้ายนายต้า ให้ได้รับบาดเจ็บเพื่อเป็นการสั่งสอนที่เบี้ยวค่ายาเสพติด ในราคา 5,000บาท พร้อมถ่ายคลิปให้ “เทพโซโล” แต่เมื่อทำงานพลาดเพราะตีผิดตัว เทพโซโล
จึงจ่ายเงินให้เพียง 1,500บาท
ผู้ต้องหายังรับสารภาพอีกว่า ผู้ที่ร่วมกันรุมทำร้ายนายบุญจันทร์ ในวันดังกล่าว เป็นกลุ่มผู้ต้องหา ที่ทำร้ายน้องเรสจนเสียชีวิต ซึ่งถูกแจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นจนถึงแก่ความตายแล้ว และได้เพิ่มข้อหา เป็นร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน แต่หลังเกิดเหตุทำร้ายร่างกาย
นายบุญจันทร์ และร่วมกันปล้นรถจักรยานยนต์ของนายต้าแล้ว จึงได้แจ้งข้อหาผู้ต้องหาทั้ง 5 คน รวมทั้งเด็กหญิงอายุ 15 ปีอีกหนึ่งคน ในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นและข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์ รวมถึงข้อหา อั้งยี่ซ่องโจร
ส่วนการสืบสวนขยายผลจับกุม “เทพโซโล” พล.ต.ต.ไพโรจน์ กุจรพันธ์ ผบก.สส.ภ.4.ว่า ขณะนี้พบว่าอาศัยหลบหนีอยู่ในประเทศเมียนมาขณะนี้ตำรวจไทยเตรียมประสานทางการเมียนมาในการทำงานร่วมกัน เพราะที่ผ่านมาทั้ง 2ประเทศก็ประสานงานกันในเรื่องส่งตัวผู้ต้องหาหลายคดีมาแล้ว ตอนนี้แค่รอหลักฐานชัดเจนเพื่อขอศาลอนุมัติหมายจับเท่านั้น ซึ่งผู้ต้องหาเหล่านี้จะต้องเอาตัวมาดำเนินคดีในประเทศไทยให้ได้
โดย “เทพบุตรโซโล” นั้นเป็นแก๊งเดียวกันกับแก๊งค์มันทุกเม็ด ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า เมื่อแก๊งค์มันทุกเม็ดมีหมายจับก็ได้ปิดเฟสบุ๊คไปแล้วและมาตั้งเป็น “เทพบุตรโซโล” และในขณะนี้ “เทพบุตรโซโล” ก็ปิดเฟสบุ๊คไปแล้วเช่นกัน