จากกรณีคนร้ายแต่งกายชุดดำคล้ายทหารกว่า 10คน ขี่รถจักรยานยนก่อเหตุกระหน่ำยิงภายในวัดรัตนานุภาพ ทำให้พระมรณภาพ 2 รูป ส่วนอีก 2 รูปได้รับบาดเจ็บ ถูกส่งตัวไปรักษาที่ รพ.สุไหงโก-ลก ซึ่งอาการปลอดภับแล้ว โดยฝ่ายความมั่นคงประกาศให้พระ 3 จังหวัดชายแดนใต้ และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา งดออกบิณฑบาตจนกว่าสถานการณ์จะสงบ
ความคืบหน้าในวันนี้ (วันที่ 19 ม.ค.) หลังจากมีคำเตือนให้พระสงฆ์งดออกบิณฑบาตจนทำให้บรรยากาศในช่วงเช้าประชาชนไทยพุทธที่มาคอยตักบาตร ไม่เห็นพระมาบิณฑบาตร ตามปกติ จึงได้สอบถามทางเจ้าหน้าที่จึงทราบว่า วันนี้พระงดออกบิณฑบาตในพื้นที่เสี่ยง
ขณะเดียวกันประชาชนไทยพุทธที่ต้องการทำบุญตักบาตร ต้องเดินทางเข้ามาในเขตเทศบาลเมืองเบตง โดยมีหน่วยกำลังทั้งในเครื่องแบบและนอกเครื่องแบบมีการคุมเข้มเส้นทางระหว่างวัด และขณะที่พระออกทำกิจของสงฆ์อย่างเข้มงวด
ด้าน พ.จ.ท.อนันต์ บุญสำราญ นายอำเภอเบตง โดยสั่งการให้ทุกหน่วยบูรณาการกำลังร่วมกับกำลังภาคประชาชนเข้าดูแลความปลอดภัยวัดและชุมชนล่อแหลม เพื่อสร้างความอุ่นใจและความมั่นใจในความปลอดภัยให้กับประชาชนในพื้นที่รวมทั้งนักท่องเที่ยวที่ยังคงเดินทางเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้จากการซักถามของชุดความมั่นคงในเบื้องต้น นายอับดุลสตอปา สุหลง ให้การว่า ตนเองได้เห็นระเบิดแสวงเครื่องที่ประกอบเสร็จแล้ว(กล่องเหล็ก) จำนวน 4 ลูก โดยได้แจกจ่ายวัตถุระเบิดกันที่มัสยิดตากอง ม.6 ต.ตุยง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ซึ่งคาดว่าวัตถุระเบิดดังกล่าวได้ทำการก่อเหตุไปแล้วในพื้นที่ ต.บางตาวา อ.หนองจิก จ.ปัตตานี คาดว่า ยังเหลืออีก 3ลูก ที่พร้อมใช้งานจึงขอแจ้งเตือนไปยังทุกพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ปัตตานี
ขณะที่หน่วยข่าวความมั่นคงเปิดเผยว่า ปรากฏข่าวสาร ผู้ก่อการร้ายระดับแกนนำปฏิบัติการและสมาชิก 5 คน เคลื่อนไหวที่บ้านสระ ม.8 ต.โล๊ะจูด อ.แว้ง จ.นราธิวาส เพื่อสังเกตการณ์และเตรียมลอบวางระเบิด และซุ่มยิงเจ้าหน้าที่ใน อ.แว้ง และพื้นที่ใกล้เคียง
ส่วนกลุ่มผู้ก่อการร้าย และแนวร่วม อ.หนองจิก อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานีและ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา เตรียมก่อกวนเชิงสัญลักษณ์ ด้วยการแขวนป้ายผ้า พ่นสีวางเพลิงทรัพย์สินสาธารณะ และลอบยิงเจ้าหน้าที่