ส.อ.ท.ชี้ “พ.ร.ฏ.เลือกตั้ง ส.ส.” สร้างความมั่นใจให้นักลงทุน พร้อมเผยยอดขายรถยนต์ในประเทศปี 61 สูงสุดรอบ 5 ปี แตะ 1.04 ล้านคัน เหตุเศรษฐกิจดีขึ้น รัฐบาลมีมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย
เมื่อวันที่ 23 ม.ค. นายสุพันธ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า การประกาศพ.ร.ฏ.ให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป พ.ศ.2562 เมื่อช่วงสายวันนี้ ทำให้การเลือกตั้งมีความชัดเจนมากขึ้น และกติกาทุกอย่างอยู่ในกรอบ ส่งผลให้นักลงทุนที่ไม่ค่อยสบายใจก่อนหน้านี้ หมดความกังวลใจไปอีกเปราะ เพราะจะมีความชัดเจนเกี่ยวกับการเมืองและการลงทุน
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ส.อ.ท. กล่าวว่า ยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปในเดือนธ.ค.2561 อยู่ที่ 95,407 คัน ลดลง 0.45% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ทั้งปี 2561 ยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปอยู่ที่ 1,140,640 คัน เพิ่มขึ้น 0.08% เมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะที่มูลค่าส่งออกอยู่ 594,809 ล้านบาท ลดลง 1.36% เมื่อเทียบกับปีก่อน
ส่วนยอดขายรถยนต์ในประเทศเดือน ธ.ค.2561 อยู่ที่ 113,581 คัน เพิ่มขึ้น 8.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และสูงสุดในรอบ 5 ปี ซึ่งเป็นผลจากยอดจองรถยนต์ในงานมหกรรมยานยนต์ที่สูงถึง 44,189 คัน เศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้นจากการลงทุนภาครัฐและเอกชน มาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยและเกษตรกร นักท่องเที่ยวต่างประเทศยังมีจำนวนมาก ส่งผลให้ยอดขายทั้งปีอยู่ 1,041,739 คัน เพิ่มขึ้น 19.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน และสูงที่สุดในรอบ 5 ปีเช่นกัน
ขณะที่ยอดการผลิตรถยนต์ในเดือนธ.ค.2561 อยู่ที่ 169,355 คัน เพิ่มขึ้น 7.73% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ยอดผลิตรถยนต์ทั้งปี 2561 อยู่ที่ 2,167,694 คัน เพิ่มขึ้น 8.99% เมื่อเทียบกับปีก่อน และสูงที่สุดในรอบ 5 ปี
ส.อ.ท. ยังเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม โดยเดือนธ.ค.2561 ดัชนีฯอยู่ที่ 93.2 ลดลงจาก 93.9 ในเดือนพ.ย.2561 เนื่องจากผู้ประกอบการได้เร่งผลิตสินค้าไปแล้วในเดือนพ.ย. เพื่อชดเชยในเดือนธ.ค.ที่มีวันทำงานน้อยและมีวันหยุดต่อเนื่องในช่วงเทศกาลปีใหม่ และนักลงทุนกังวลต่ออัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้ต้นทุนการเงินของผู้ประกอบการเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเอสเอ็มอี
นอกจากนี้ ผู้ประกอบการส่งออกยังมีความกังวลต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ซึ่งส่งผลกระทบต่อคำสั่งซื้อสินค้าของไทย
สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ 105.9 ลดลงจาก 107.4 ในเดือน พ.ย.2561 เนื่องจากผู้ประกอบการกังวลการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และความไม่แน่นอนของสงครามการค้า ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทยให้ชะลอตัวลง รวมทั้งราคาน้ำมันมีแนวโน้มสูงขึ้นตามราคาตลาดโลก เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อต้นทุนประกอบการในอนาคต