ไทยเตรียมเสนอ “โนราห์-ต้มยำกุ้ง” ขึ้นทะเบียนตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติต่อยูเนสโก พร้อมจัดเทศกาลโขนฉลอง 6-8 เมษายน วาระที่ “โขนไทย” ได้รับการรับรองจากยูเนสโก
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ครั้งที่1/2562 ว่า กรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) เสนอแผนการจัดงานเทศกาลโขน เพื่อเฉลิมฉลองโขนในวาระที่โขนของประเทศไทย ได้รับการขึ้นทะเบียนรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ของยูเนสโก ปี 2561 โดยบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน กำหนดจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ในรูปแบบต่าง ๆ ในช่องทาง สื่อโซเชียลมีเดีย โทรทัศน์ และตามสถานที่สาธารณะ ประกอบด้วย กิจกรรมการแสดงโขน ณ โรงละครแห่งชาติ โดยสำนักการสังคีต กรมศิลปากร ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม การแสดงโขนสัญจร 4 ภูมิภาค ในช่วงเดือนมีนาคมการสร้างภาพยนตร์รามเกียรติ์แอนิเมชั่น ตอน รามาวตาร และจัดฉายในโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ งานมหกรรมโขนในกรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 6-8 เมษายน และการประชุมวิชาการระดับชาติและการเสวนานานาชาติ เรื่อง โขน : คุณค่าและความสำคัญในฐานะมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติ ในช่วงปลายเดือนเมษายน ที่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ โดยเน้นการสร้างความตระหนักและการรับรู้ให้เข้าถึงเยาวชนคนรุ่นใหม่
นายวีระ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ที่ประชุมเห็นชอบให้มีเสนอ โนราห์ ศิลปะการแสดงพื้นบ้านภาคใต้ ซึ่งขึ้นบัญชีเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของประเทศไทยเมื่อปี 2552 ต่อยูเนสโก ขอขึ้นบัญชีประเภทรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ปี 2563 ซึ่งโนราห์มีคุณสมบัติสมบูรณ์ตรงตามหลักเกณฑ์การพิจารณาของยูเนสโก โดยมีความสอดคล้องกับมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม 4 ลักษณะ ได้แก่ ธรรมเนียมและการแสดงออกทางมุขปาฐะ ศิลปะการแสดง การปฏิบัติทางสังคม พิธีกรรม งานเทศกาล และงานช่างฝีมือดั้งเดิม รวมทั้งเป็นศิลปะการแสดงที่ทุกเพศ ทุกวัย สามารถเข้าฝึกทักษะการแสดงได้ มีการไหว้ครูเป็นขนบจารีตที่สำคัญยิ่ง โดยขณะนี้มีคณะทำงาน ผู้ทรงคุณวุฒิ จัดทำข้อมูลโนราห์ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการพิจารณา ของยูเนสโกแล้ว หากดำเนินการจัดทำข้อมูลแล้วเสร็จ สวธ.จะนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อขอความเห็นชอบก่อนเสนอต่อยูเนสโก
นายวีระ กล่าวด้วยว่า การขึ้นบัญชีโนราห์จะส่งผลให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่แสดงถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรมอย่างกว้างขวาง และทำให้เข้าใจถึงความคล้ายและความแตกต่างของมรดกภูมิปัญญาทั้งในและนอกภูมิภาค อีกทั้งศิลปินชุมชนโนราห์ สวธ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันจัดทำมาตรการสงวนรักษาโนราห์ให้คงอยู่ ป้องกันมิให้นำไปใช้ในทางที่เสื่อมเสีย โดยมีการอภิปรายอย่างกว้างขวาง และที่ประชุมเห็นชอบให้เสนอขอชื่อขึ้นบัญชีต่อองค์การยูเนสโก
“นอกจากนี้ที่ประชุมยังเห็นชอบแนวทางการเสนอต้มยำกุ้ง ขึ้นบัญชีมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ต่อยูเนสโก เป็นรายการต่อไปด้วย โดยให้มีการแต่งตั้งคณะทำงานจัดทำข้อมูลมรดกภูมิปัญญาต้มยำกุ้งโดยเฉพาะอย่างเร่งด่วน”นายวีระกล่าว