จากกรณีเหตุการณ์ชายลอบจุดไฟเผารถยนต์ของ นายเอกชัย หงส์กังวาน นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ที่จอดไว้ที่หน้าบ้านพักส่วนตัวภายใน ซอยลาดพร้าว 109 แยก3 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ซึ่งในช่วงบ่ายวันนี้ (27 ม.ค.62) นายเอกชัย ได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลลาดพร้าว หลังมีหลักฐานเป็นกล้องวงจรปิด
นายเอกชัย กล่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. เพื่อนบ้านได้มาบอกให้ตนไปดูรถที่จอดไว้หน้าบ้าน เนื่องจากพบว่า มีร่องรอยถูกไฟไหม้ จึงรีบออกไปดูปรากฎว่า สภาพตัวรถด้านซ้ายมีรอยไหม้ดำเป็นแถบยาว ทั้งนี้ตนจึงได้ประสานขอดูกล้องวงจรปิดจากเพื่อนบ้าน ซึ่งก็พบว่าเวลาประมาณ 03.00 น. มีชายผมสั้น อายุประมาณ 20 ปี สวมเสื้อแขนยาว กางเกงขาสั้น เดินมาข้างรถพร้อมใช้น้ำมันราดไปที่ตัวรถด้านซ้าย แล้วใช้ไฟแช็คจุดจนไฟลุกท่วม ก่อนจะวิ่งหลบหนีออกไปทางปากซอย
นายเอกชัย กล่าวต่อว่าครั้งนี้ถือว่าเป็นการลอบทำร้ายทางทรัพย์สินเป็นครั้งแรก และเป็นครั้งที่อุกอาจมากที่สุด ซึ่งก่อนหน้านี้เคยถูกทำร้ายร่างกายมาทั้งหมด 5 ครั้ง ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2561 จนมาถึงวันที่ 19 ม.ค. 62 ที่ถูกทำร้ายร่างกายในพื้นที่สน.ชนะสงคราม
นายเอกชัย กล่าวต่ออีกว่าตนตั้งข้อสังเกตุว่าตนเป็นเพียงคนเดียวในกลุ่มนักเคลื่อนไหวด้วยกันที่ถูกทำร้ายมากที่สุด แต่อย่างไรก็ดีทางเพื่อนในกลุ่มก็ให้กำลังใจ นอกจากนี้ยังตั้งข้อสังเกตุว่าก่อนเกิดเหตุการณ์ในครั้งนี้ตนได้มีการแจ้งความเอาผิดกับนายทหารชั้นผู้ใหญ่คนหนึ่ง และยืนยันว่า เรื่องที่เกิดขึ้นน่าจะมาจากสาเหตุทางการเมือง เนื่องจากไม่เคยมีปัญหาด้านอื่นๆ ทั้งนี้ยังคงดำเนินชีวิตตามปกติต่อไปแต่เพียงต้องระมัดระวังตัวมากขึ้น อาจจะต้องมีเพื่อนขณะเดินทางออกไปนอกบ้าน
นายเอกชัย ยังกล่าวอีกว่า ตั้งแต่พระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป มีผลบังคับใช้ ตนเอง ก็ยุติการเคลื่อนไหวทางการเมือง จึงเชื่อว่ามีกลุ่มคนที่ไม่พอใจตัวเองจึงใช้จังหวะนี้หวังข่มขู่คุกคาม เ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง…มือมืดราดน้ำมันจุดไฟเผารถยนต์ “เอกชัย หงส์กังวาน” เตรียมแจ้งความสน.ลาดพร้าว (คลิป)
https://www.brighttv.co.th/latest-news/337492
ด้าน พ.ต.อ.ภาสกร รัตนปนัดดา ผกก.สน.ลาดพร้าว กล่าวว่าหลังจากทางเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุ ก็ได้สั่งการให้ทางร้อยเวร และประสานกองพิสูจน์หลักฐานเข้าไปตรวจสอบ เก็บหลักฐานต่าง ๆ เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาคดี นอกจากนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนลงตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม โดยเน้นในเส้นทางหลบหนี เนื่องจากคาดว่าคนร้ายอาจจะไม่ได้มาเพียงลำพัง
อย่างไรก็ดีทางเจ้าหน้าที่จะติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี และให้ความเป็นธรรม เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนจะทำการสอบปากคำนายเอกชัย และตรวจสอบหลักฐานกล้องวงจรปิดที่ผู้เสียนำมามอบให้ และรอหลักฐานเพิ่มเติมจากฝ่ายสืบสวน เพื่อเร่งติดตามจับตัวคนร้ายโดยเร็วที่สุด