Home » ข่าว » จับ 17 แรงงานเถื่อน เดินเท้าลอบเข้าเมือง จ่ายค่าหัวให้ไทยคนละ 20,000 บาท
วันที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.อ.พิเชษฐ์ หัสดีผง ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 19 ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก กองกำลังสุรสีห์ จ.ประจวบคีรีขันธ์สั่งการให้ พ.อ.เฉลิมพล สังข์ต้อง รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึกนำกำลังพลร่วมกับ กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดน (ตฃด.) ที่ 147 เจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) คลองลอย ต.ร่อนทอง อ.บางสะพาน นำกำลังเข้าตรวจสอบบริเวณช่องทางธรรมชาติ บริเวณสันเขื่อนอ่างเก็บน้ำหมู่บ้านคลองลอย ที่เกิดเหตุพบแรงงานต่างด้าวพร้อมคนนำทางรวม 17 คน ขณะกำลังเดินลัดเลาะลงมาจากภูเขา ถึงบริเวณสันเขื่อนอ่างเก็บน้ำ เจ้าหน้าที่จึงได้กระจายกำลังเข้าโอบล้อม จากนั้นเข้าจู่โจมจับกุมแรงงานต่างด้าวได้ทั้งหมด ตรวจสอบไม่พบว่ามีเอกสารหลักฐานแสดงตัวบุคคลจึงควบคุมตัวไว้
สอบสวนทราบว่า แรงงานต่างด้าวเถื่อนทั้งหมดเดินทางมาจากรัฐยะไข่ ประเทศเมียนมา ผ่านบ้านน้ำเย็น ต.บาคาลา อ.ปกเปี้ยน จ.เกาะสอง ตรงข้ามบ้านคลองลอย โดยมี นายเชอซาม่อ อายุ 59 ปี เป็นผู้ช่วยเหลือพาหลบหนีเข้าประเทศ จากนั้นให้ทุกคนหลบซ่อนตัวอยู่บริเวณนี้ อ่างว่าได้ค่าจ้างนำทางจากแรงงานต่างด้าวคนละ 300 บาท และได้รับการประสานจากคนไทยไม่ทราบชื่อจะนำรถกระบะเข้าไปรับตัว โดยบุคคลต่างด้าวต้องจ่ายเงินให้กับผู้นำพาคนไทยอีก คนละ 20,000 บาท เพื่อเดินทางไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวพร้อมแจ้งข้อกล่าวหา เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต” และ “นำพาบุคคลต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางสะพาน ดำเนินคดีตามกฎหมาย
พ.อ.เฉลิมพล สังข์ต้อง รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก กองกำลังสุรสีห์ กล่าวว่า ปัจจุบัน จะมีการลักลอบนำแรงงานต่างด้าวจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาอีกจำนวนมากผ่านช่องทางธรรมชาติตามแนวชายแดนของประเทศไทย เพื่อส่งต่อไปยังประเทศที่สาม เนื่องจากตอนนี้ทางประเทศที่สามขาดแคลนแรงงานในการประกอบธุรกิจอุตสาหกรรมที่มีการขยายตัวเพิ่มขึ้น ขณะนี้กองกำลังสุรสีห์ มีมาตรการเพิ่มความเข้มงวดในการลาดตระเวนในพื้นที่ตามแนวชายแดนและช่องทางธรรมชาติอย่างเข้มงวด เพื่อป้องปรามการกระทำผิดกฎหมายทุกชนิด