กรมการแพทย์แผนไทย เตือน “คนท้อง” ระบุตั้งครรภ์ 3 เดือน 6 เดือนไม่ควรนวดเสี่ยงอันตราย ส่วนเคสเป็นเจ้าหญิงนิทราที่เชียงใหม่ยังชี้ชัดไม่ได้ข้อมูลยังไม่พอ ชี้หากนวดเค้นน่องสาวท้อง อาจทำลิ่มเลือดอุดตันปอดและสมองได้
กรณีที่หญิงตั้งครรภ์เกิดอาการช็อก หมดสติ และแท้งลูก หลังรับการนวดฝ่าเท้า โดยแพทย์ระบุว่าเกิดจากลิ่มเลือดอุดตันที่ปอดและสมอง นพ.ขวัญชัย วิศิษฐานนท์ รองโฆษกกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า การนวดฝ่าเท้าที่เป็นการกดจุดฝ่าเท้าจะไม่มีปัญหา แต่หลายแห่งมักเพิ่มการนวดเค้นบริเวณน่องด้วย ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปผลได้ว่าเกิดจากอะไร ต้องตรวจสอบว่า ผู้ป่วยมีโรคประจำตัวอยู่ก่อนหรือไม่ มีการนวดอวัยวะส่วนไหน อย่างไร ร้านนวดขออนุญาตเปิดเป็นสถานประกอบการเพื่อสุขภาพตามกฎหมายหรือไม่ และบุคลากรหรือหมอนวด ผ่านการอบรมตามหลักสูตรอย่างน้อย 150 ชั่วโมงหรือไม่ ซึ่งกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) รับผิดชอบรายละเอียดเกี่ยวกับร้านนวดโดยตรง อย่างไรก็ตามผู้หญิงตั้งครรภ์ มดลูกจะมีขนาดใหญ่ขึ้น การกดเส้นเลือดที่อยู่ในท้อง ซึ่งเป็นส่วนที่ต่อมายังบริเวณน่องและขา จะมีเลือดไปตกค้างอยู่ ทำให้ไหลเวียนไม่สะดวก อาจมีลิ่มเลือดเกิดขึ้นในเส้นเลือดได้ หากไปนวดเค้นก็อาจเกิดปัญหาตามมา ลิ่มเลือดอาจหลุดไปที่ปอดหรือสมองได้ แต่กรณีนี้ข้อมูลยังไม่เพียงพอ อยู่ระหว่างประสานสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) เชียงใหม่ ขอข้อมูลเพิ่มเติม
นพ.ขวัญชัย กล่าวอีกว่า การนวดไทยเป็นภูมิปัญญาที่สั่งสมมาแต่โบราณ ตั้งแต่สมัยอยุธยา ผู้ที่จะเป็นหมอนวดต้องผ่านการเรียนรู้ โดยการนวดผ่อนคลายทั่วไปต้องผ่านหลักสูตรเบื้องต้น 150 ชั่วโมง ระดับถัดมาคือนวดเพื่อบำบัดอาการ 20 กลุ่มอาการ อบรม 330 ชั่วโมงขึ้นไป และผู้ประกอบวิชาชีพแพทย์แผนไทยต้องอบรมอย่างน้อย 800 ชั่วโมง รวมถึงระดับสูงกว่านี้ คือ 1,300 ชั่วโมง เปรียบเสมือนปริญญาเอก ดังนั้นการนวดจึงเป็นเรื่องที่ต้องอบรม ต้องผ่านการรับรอง ซึ่งมีทั้งประโยชน์ และมีความเสี่ยง หากทำโดยคนไม่มีความรู้ก็จะเสี่ยงอันตรายได้
“หญิงตั้งครรภ์เป็นกลุ่มเสี่ยงที่กระทบกระเทือนต่อสุขภาพได้ หากท้องอ่อน ไม่เกิน 3 เดือน และท้องแก่ มากกว่า 6 เดือนขึ้นไป ไม่ควรนวด เพราะช่วงตั้งครรภ์อ่อน ๆ อาจกระตุ้นให้เกิดการแท้งได้ และช่วงครรภ์แก่ มดลูกจะไปกดเส้นเลือดดำ เส้นเลือดแดงไปกดในท้อง ในลำไส้ อาจเกิดลิ่มเลือดขึ้นได้ จึงไม่ควรไปนวด เพราะอาจเกิดลิ่มเลือดไปอุดตันได้ แต่หากมีความจำเป็นที่ต้องเข้ารับการนวดบำบัดรักษา จะต้องรับบริการจากแพทย์แผนไทยเท่านั้น ซึ่งผู้ที่มีความเสี่ยงลิ่มเลือดอุดตันคือ หญิงตั้งครรภ์ และผู้มีโรคประจำตัวทั้งหมด ทั้งเบาหวาน ความดันสูง หัวใจ ฯลฯ ดังนั้น กลุ่มคนเหล่านี้แม้จะอยากนวดผ่อนคลายก็ไม่ควรไปนวดกับร้านนวดทั่วไป ควรไปรับบริการจากแพทย์แผนไทยที่ผ่านการอบรมมากกว่า 800 ชั่วโมง ซึ่งจะสามารถวินิจฉัยเรื่องภาวะลิ่มเลือดอุดตันได้”รองโฆษกกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าว