กกต.ฮึ่ม ! เตือนทำลายป้ายหาเสียง มีความผิดปรับ 6 พัน-จำคุก 3 ปี แย้มจัดคิกออฟเลือกตั้ง 24 มีนา ดึงพรรคการเมือง ร่วมประกาศเจตจำนงค์ เดินหน้าเลือกตั้งอย่างสุจริต
6 ก.พ.62- พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) กล่าวว่า การเปิดรับสมัครเลือกตั้งเข้าสู่วันที่ 3 นับในเวลา 15.00 น. มีมาสมัครจำนวน 59 พรรคการเมือง รวมจำนวน 7,409 คน โดยในวันนี้มีพรรคการเมืองยื่นสมัครบัญชีรายชื่อจำนวน 8 พรรค อาทิ พรรคอนาคตใหม่ พรรคพลังท้องถิ่นไท พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติพัฒนา ส่วนตัวเลขพรรคการเมืองที่มาสมัครส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อมีรวม 10 พรรคการเมือง จำนวน 579 คน ขณะที่ยอดผู้สมัคร ส.ส.แบ่งเขตอยู่ที่ 66 พรรคการเมืองทั่วประเทศ ดังนั้นยังเหลืออีก 2 วันที่กกต.จะรับสมัคร จึงขอให้พรรคการเมืองรีบมายื่นเอกสารให้กกต.ก่อนปิดการรับสมัครในวันที่ 8 ก.พ.นี้
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวต่อว่า ส่วนการทำลายป้ายหาเสียงนั้น กกต.ขอให้การหาเสียงเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย มีการเปลี่ยนผ่านอำนาจเพื่อไปเป็นรัฐบาลโดยมาจากประชาชน จึงขอให้คิดว่าการทำลายป้ายหาเสียง จะเป็นความผิดกฎหมายอาญาทำให้เสียทรัพย์ โดยมีโทษจำคุก 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 พัน หรือทั้งจำทั้งปรับ เพราะการทำลายป้ายหาเสียงถือเป็นการทำลายอำนาจของประชาชน ขอให้อย่าไปทำ นอกจากนี้ในวันศุกร์ ที่ 8 ก.พ. กกต.จะจัดกิจกรรมคิกออฟ เลือกตั้งวันที่ 24 มี.ค. โดยจะมีพรรคการเมืองมาร่วมลงนามประกาศเจตจำนงค์ให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างสุจริตเที่ยงธรรม โดยภายในงานจะเปิดตัวเพลง มัสคอต และกระบวนการทางประชาธิปไตยเพราะการเลือกตั้งครั้งนี้ ถือเป็นการเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์ ตามรัฐธรรมนูญที่มีการเปลี่ยนแปลงจำนวนมาก เพื่อให้มีการเลือกตั้งส.ส.ที่มาจากประชาชนอย่างแท้จริง
ด้านนายเมธา ศิลาพันธ์ รองเลขาธิการ กกต. กล่าวว่า สำหรับการจัดทำโครงการการมีส่วนร่วมของประชาชนในการจัดการเลือกตั้ง อาทิ โครงการ รด.จิตอาสา กปน.มืออาชีพ กิจกรรม ลูกเสืออาสา กกต.ยืนยันว่ากกต.ได้จัดสรรงบประมาณทุกโครงการ พร้อมจัดประชุมเครือข่ายและวางแผนทำงานร่วมกันเพื่อให้ความรู้แต่ละเครือข่ายของกกต. เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการเลือกตั้ง โดยจะเริ่มทำหน้าที่ในสัปดาห์นี้ ส่วนที่มีข่าวออกมานั้น กกต.ขอชี้แจงว่าสาเหตุที่ต้องชะลอการประสานงานในบางโครงการที่จำเป็น เพราะการเบิกจ่ายงบประมาณให้ผู้ปฏิบัติงานซึ่งเป็นบุคคลภายนอกนั้น ต้องมีระเบียบโดยเฉพาะเพื่อเป็นระเบียบรองรับ ซึ่งอยู่ระหว่างให้คณะกรรมการ กกต.พิจารณา โดยจะมีการเบิกจ่ายได้ทันในวันเลือกตั้งแน่นอน ส่วนกิจกรรมต่างๆ ยังเดินหน้าไปตามปกติต่อไป