สัญญาน้ำมันดิบ WTI บวกติดต่อกัน 5 วันทำการ ปิดที่ 56.09 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล รับโอเปกลดกำลังการผลิต ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการเจรจาการค้าสหรัฐ-จีน
เมื่อคืนวันอังคาร (19 ก.พ.) สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนมี.ค. ปิดที่ 56.09 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.50 เหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้น 0.9% ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ งวดส่งมอบเดือนเม.ย. ปิดที่ 66.45 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ลดลง 0.05 เหรียญสหรัฐ หรือลดลง 0.07%
สัญญาซื้อขายน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้นติดต่อกัน 5 วันทำการ เนื่องจากได้รับปัจจัยหนุนจากการลดกำลังการผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปก ซึ่งล่าสุดกำลังผลิตของกลุ่มลดลงสู่ระดับ 30.806 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนม.ค. หรือลดลง 797,000 บาร์เรล/วันจากเดือนก่อน ทั้งนี้ การปรับลดกำลังการผลิตดังกล่าวส่งผลให้ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น 20% ในปีนี้
สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากความหวังที่ว่า การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะมีความคืบหน้าโดยการเจรจาการค้าระดับรัฐมนตรีระหว่างสหรัฐและจีน เป็นเวลา 2 วันจะจัดขึ้นที่กรุงวอชิงตันในวันพฤหัสบดีและศุกร์นี้ ซึ่งทั้งสองฝ่ายต่างก็คาดหวังหวังที่จะบรรลุข้อตกลงการค้าก่อนสิ้นเดือนนี้
นอกจากนี้ มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐต่อประเทศผู้ผลิตและส่งออกน้ำมันอย่างอิหร่านและเวเนซุเอลา ส่งผลให้อุปทานน้ำมันลดลง ล่าสุดเมื่อต้นเดือนม.ค.ที่ผ่านมา การส่งออกน้ำมันดิบของอิหร่านลดลงอย่างมากนับตั้งแต่การคว่ำบาตรเริ่มขึ้นในเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว
ทั้งนี้ นักลงทุนจับตาการประชุมโอเปกในวันที่ 17-18 เม.ย.นี้ เพื่อดูสัญญาณการปรับลดกำลังการผลิตของโอเปกและประเทศพันธมิตรในช่วงครึ่งปีหลัง รวมทั้งจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐ ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) มีกำหนดเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันพรุ่งนี้ เวลา 23.00 น.ตามเวลาไทย
อย่างไรก็ตาม HSBC ธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปเตือนว่า การลงทุนในปีนี้ต้องเลื่อนออกไป เนื่องจากกำไรที่ต่ำกว่าคาดการณ์ในปีที่แล้ว ท่ามกลางเศรษฐกิจของจีนและสหราชอาณาจักรที่เติบโตในอัตราชะลอลง ขณะที่โอเปกคาดว่าความต้องการน้ำมันทั่วโลกในปีนี้จะเพิ่มขึ้น 1.24 ล้านบาร์เรล/วัน
ด้านบมจ.ไทยออยล์รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมันประจำวันที่ 20 ก.พ. ว่า ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวลดลง หลังโอเปกประกาศตัวเลขคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันดิบของโลกสำหรับปี 2562 ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 1.24 ล้านบาร์เรลต่อวัน ขณะที่นักวิเคราะห์บางส่วนมีความคิดเห็นว่าตัวเลขอุปสงค์น้ำมันดิบที่จะเกิดขึ้นน่าจะมีปริมาณต่ำกว่าการคาดการณ์ของโอเปกมาอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 1 ล้านบาร์เรล/วัน เนื่องจากเศรษฐกิจโลกที่มีความไม่แน่นอนอย่างต่อเนื่อง
นักลงทุนยังคงกังวลต่อผลการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนว่าจะออกมาในทิศทางใด และจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกอย่างไร โดยการเจรจาครั้งที่ผ่านมาได้เริ่มขึ้นเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ณ กรุงวอชิงตัน และจะมีแผนการเจรจาในระดับที่สูงขึ้นในปลายสัปดาห์นี้
อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นสู่ระดับสูงสุดตั้งแต่เดือน พ.ย. 61 หลังจากที่สหรัฐคว่ำบาตรเวเนซุเอลา ซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันดิบที่มีกำมะถันสูงเป็นอันดับ 1 ของสหรัฐ ทำให้มีความต้องการน้ำมันดิบจากเวเนซุเอลาลดลง และสนับสนุนให้ราคาน้ำมันดิบ WTI ในตลาดล่วงหน้าปรับตัวสูงขึ้น
ขณะที่ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของโลกได้หยุดปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังจากที่ผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปกได้ปรับลดกำลังผลิตลง 1.2 ล้านบาร์เรล/วันตั้งแต่ 1 ม.ค. 62 ซึ่งการปรับลดลงครั้งนี้ทำให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 20% รวมถึงการคว่ำบาตรอิหร่านและเวเนซุเอลาของสหรัฐ ช่วยสนับสนุนให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน
บมจ.ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้ โดยคาดว่าราคาน้ำมันดิบ WTI จะเคลื่อนไหวในกรอบ 52-58 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ราคาน้ำมันดิบเบรนท์จะเคลื่อนไหวในกรอบ 62-68 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล