สนช.ผ่านร่างกม.จราจรฉบับใหม่ เลิกยึดใบขับขี่-ให้สตช.ออกข้อกำหนด “ตัดแต้ม”

ที่ประชุมสนช.มีมติ 138 เสียง เห็นชอบร่างพ.ร.บ.จราจรทางบกฉบับใหม่ รองรับใบขับขี่อิเล็กทรอนิกส์ เลิกยึดใบอนุญาตขับขี่ พร้อมให้สตช.กำหนดหลักเกณฑ์ตัดแต้ม หากแต้มหมดจะโดนพักใบขับขี่

เมื่อวันที่ 22 ก.พ. ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติเห็นชอบร่างพ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่….) พ.ศ….วาระที่ 3 ด้วยคะแนนเสียงเห็นชอบ 138 เสียง ไม่เห็นชอบ 0 เสียง งดออกเสียง 3 เสียง และไม่ลงคะแนน 1 เสียง และจะเข้าสู่ขั้นตอนการดำเนินการเพื่อประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไป

สำหรับร่างพ.ร.บ.จราจรทางบกดังกล่าว เป็นการปรับปรุงแก้ไขพ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 เพื่อรองรับใบขับขี่แบบอิเล็กทรอนิกส์ กำหนดหลักเกณฑ์การออกใบสั่งสำหรับผู้ที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายจราจร โดยจะมีการกำหนดให้มีระบบบันทึกคะแนนความประพฤติในการขับขี่ รวมทั้งกำหนดมาตรการที่เกี่ยวกับการดูแลและบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบกให้มีประสิทธิภาพ เป็นต้น

รายงานข่าวระบุว่า ในช่วงการอภิปราย สนช. ได้ซักถามทางคณะกรรมาธิการฯในประเด็นการตัดคะแนนความประพฤติของบุคคล ที่ฝ่าฝืนหรือทำผิดกฎจราจร รวมถึงการเพิ่มบทบัญญัติให้เจ้าหน้าที่สามารถระงับการใช้รถ หรือยินยอมให้ผู้ขับขี่ขับรถได้นั้น จะเป็นการละเมิดสิทธิและเสรีภาพของประชาชนหรือไม่

โดยคณะกรรมธิการฯ ชี้แจงว่า หลังจากร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ ผลบังคับใช้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ต้องออกข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องกับการตัดคะแนนผู้ขับขี่ ซึ่งร่างข้อกำหนดเบื้องต้น ระบุว่าให้ผู้ขับขี่มีคะแนน 12 คะแนน และจะถูกตัดแต้มในกรณีต่างๆ เช่น การฝ่าไฟแดง ตัด 1 คะแนน และการไม่หลีกทางให้รถพยาบาลฉุกเฉิน ตัด 3 คะแนน ทั้งนี้ หากผู้ขับขี่ถูกตัดคะแนนจนหมดจะถูกพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ และหากอยากได้คะแนนคืนจะต้องเข้าอบรมโดยต้องมีค่าใช้จ่าย

อย่างไรก็ตาม ก่อนจะออกข้อกำหนดต่างๆภายใต้กฎหมายฉบับนี้ โดยเฉพาะข้อกำหนดการตัดแต้มนั้น ทางสตช.จะจัดเวทีรับฟังความเห็นประชาชน

นอกจากนี้ คณะกรรมาธิการฯ ยังระบุว่า แม้ว่ากฎหมายจราจรฉบับใหม่จะยกเลิกอำนาจของเจ้าหน้าที่ในการยึดใบขับขี่ แต่กรณีที่เจ้าหน้าที่พบว่าผู้ขับขี่ที่มีอาการมึนเมาและมีความเสี่ยงจะเกิดอันตรายกับผู้ใช้ทางหรือประชาชน เจ้าหน้าที่มีอำนาจระงับการใช้รถบุคคลที่มีพฤติกรรมเสี่ยงดังกล่าวเป็นการชั่วคราว และหากบุคคลที่มีพฤติกรรมเสี่ยงนั้นพ้นจากภาวะที่จะก่ออันตราย เจ้าหน้าที่จึงจะสามารถปล่อยให้ขับรถต่อไปได้

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า