สอบครูอริยชาติยุติ ชี้เป็นประเพณีของประเทศเพื่อนบ้านที่ปฏิบัติสืบทอดกันมานาน ครูบาฯ แค่เข้าร่วมพิธีเท่านั้น ยุติในชั้นการสอบสวนของเจ้าคณะ อ.แม่สรวย แต่รายงานให้รักษาการเจ้าคณะ จ.เชียงราย ได้รับทราบเท่านั้น
ความคืบหน้ากรณีพระรัตนมุนี รักษาการเจ้าคณะ จ.เชียงราย ได้มีหนังสือสั่งการให้เจ้าคณะ อ.แม่สรวย จ.เชียงราย ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง เรื่องพระภาวนารัตนญาณหรือครูบาอริยชาติ อริยจิตโต เจ้าอาวาสวัดแสงแก้วโพธิญาณ ต.เจดีย์หลวง อ.แม่สรวย ได้เข้าร่วมพิธียกยอราชครูแห่งเมืองยอง รัฐฉาน ประเทศเมียนมา โดยสวมมงกุฎที่ทำจากทองคำแท้หนัก 32 บาท พาดแผ่นทองคำบริเวณบ่าซ้ายหรือสังฆาฏิหนัก 10 บาท และสุพรรณบัตรหนัก 5 บาท เมื่อวันที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมา
ล่าสุดคณะสงฆ์ อ.แม่สรวย ได้สอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องรวมทั้งครูบาอริยชาติ และได้ศึกษาข้อมูลแล้วเสร็จแล้ว จากนั้นได้ส่งรายงานผลสรุปถึงรักษาการเจ้าคณะ จ.เชียงราย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยไม่มีคำสั่งใด ๆ เพิ่มเติมออกมาอีกโดยให้ทุกฝ่ายปฏิบัติหน้าที่สงฆ์ไปตามปกติต่อไป
สำหรับรายงานจากเจ้าคณะ อ.แม่สรวย ที่ส่งถึงสำนักงานรักษาการเจ้าคณะ จ.เชียงราย มีเนื้อหาสำคัญ ว่ากรณีดังกล่าวเกิดขึ้นในประเทศเพื่อนบ้านซึ่งเป็นประเพณีที่ได้กระทำสืบทอดกันมาอย่างยาวนานจนเป็นเรื่องปกติ ดังนั้น การที่พระภาวนารัตนญาณได้เข้าไปร่วมในพิธีดังกล่าว จึงถือได้ว่าไปร่วมตามประเพณีนั้น ๆ และให้เรื่องยุติในชั้นการสอบสวนของเจ้าคณะ อ.แม่สรวย เพียงแต่รายงานให้ทางรักษาการเจ้าคณะ จ.เชียงราย ได้รับทราบต่อไป
ปัจจุบันครูบาอริยชาติยังคงปฏิบัติธรรมและพบปะญาติโยมอยู่ที่วัดแสงแก้วโพธิญาณ โดยมีพุทธศาสนิกชนและนักท่องเที่ยวเดินทางไปเยือนวัดอย่างต่อเนื่องทุกวัน เนื่องจากเป็นวัดที่มีการก่อสร้างอาคารสถานที่และรูปเคารพต่าง ๆ จำนวนมากบนเนื้อที่กว่า 80 ไร่ ปัจจุบันกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของ จ.เชียงราย
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ครูบาอริยชาติ ได้ชี้แจงต่อเรื่องดังกล่าว ว่าได้รับกิจนิมนต์ให้ไปร่วมในพิธีดังกล่าวที่เมืองยอง ซึ่งต่างเป็นผู้ที่ใช้ภาษาไทยสื่อสารกันได้เพราะเป็นชาวไตด้วยกัน ในพิธีมีชาวเมืองในรัฐฉานและใกล้เคียงจาก 8 เมืองใหญ่นับหมื่นคน และเป็นประเพณีปฏิบัติที่จะมีการมอบมงกุฏทองคำให้กับผู้ที่ได้รับสมณะศักดิ์ชั้นราชครู ซึ่งถือเป็นชั้นยศลำดับที่ 6 ของคณะสงฆ์ในรัฐฉานที่สืบทอดกันมายาวนานนับพันปีแล้ว โดยชาวเมืองได้ร่วมกันบริจาคทองคำและพระสังฆราชาเมืองยองก็ร่วมบริจาคด้วยน้ำหนัก 15 บาท จากนั้นจึงได้มอบให้ครูบาอริยชาติเพื่อนำไปทำบุญต่อไป ปัจจุบันได้เก็บวัตถุดังกล่าวไว้ที่วัดแสงแก้วโพธิญานและในอนาคตก็จะนำจัดแสดงต่อไปด้วย
ในอดีตมีพระสงฆ์ทั้งไทยและประเทศเพื่อนบ้าน ที่เคยเข้ารับสมณศักดิ์ในลักษณะนี้หลายรูป แต่ส่วนใหญ่จะได้รับสมณะชั้นครูบา ซึ่งมอบให้กับพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบที่มีพรรษากาลหรือบวชได้ 30 พรรษา เช่น ครูบาบุญชุ่มเคยได้รับสมณะศักดิ์นี้ด้วยมงกุฏทองคำเช่นเดียวกัน แต่เป็นชั้นครูบาในเมืองใหญ่แห่งหนึ่งของรัฐฉาน เป็นต้น หรือแม้แต่พระสงฆ์จากประเทศไทยก็เคยข้ามไปรับแต่ในอดีตไม่มีสื่อสาธารณะหรือโชลเชียลมีเดียร์และไม่มีการเผยแพร่ข่าวสารรวมทั้งไม่ใช่บุคคลที่มีชื่อเสียงจึงไม่ตรงเป็นประเด็นทางสังคมมากนัก