เกษตรฯปล่อยคาราวาน “เครื่องสูบน้ำ” เผย “อีสาน” เหลือน้ำใช้การได้ในเขื่อนแค่ 21%

“อีสาน” น่าห่วง พบน้ำใช้การได้ในเขื่อนใหญ่ทั้งภาคเหลือ 1,742 ล้านลบ.ม. คิดเป็น 21% ของความจุ ด้าน ก.เกษตรฯปล่อยคาราวาน “เครื่องสูบน้ำ-รถบรรทุกน้ำ” ลงพื้นที่เสี่ยงภัยแล้ง เผยล่าสุดทั่วประเทศมีน้ำใช้การได้ 2.7 หมื่นลบ.ม.

เมื่อวันที่ 8 มี.ค. นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยหลังเป็นประธานพิธีปล่อยขบวนคาราวานเครื่องจักรกล เครื่องสูบน้ำ รถบรรทุกน้ำ เพื่อช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่คาดว่าจะประสบภัยแล้ง ว่า แม้ว่าขณะนี้การบริการจัดการน้ำในฤดูแล้ง ปี  2561/62 ยังเป็นไปตามแผน และล่าสุดมีปริมาณน้ำใช้การได้ทั่วประเทศ27,047 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่มีบางพื้นที่เสี่ยงภัยแล้ง จึงต้องส่งเครื่องมือ เครื่องจักร ลงไปเพื่อบรรเทาภัยแล้งในเบื้องต้น

ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรฯได้มอบหมายให้กรมชลประทานเป็นหน่วยงานหลัก ในการจัดทำฐานข้อมูลปริมาณน้ำทั้งประเทศ ความต้องการใช้น้ำ ทั้งในเขตและนอกเขตชลประทานอย่างเป็นระบบ เพื่อนำมาวิเคราะห์เป็นรายพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวัง และกำหนดมาตรการที่เหมาะสมในการบริหารจัดการน้ำให้เพียงพอต่อ ความต้องการของเกษตรกรและประชาชนในพื้นที่ พร้อมทั้งรายงานผลให้นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรฯ รับทราบในทุกวันจันทร์

นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า เครื่องมือและเครื่องจักร เช่น รถบรรทุกน้ำและเครื่องสูบน้ำ เครื่องจักรกลอื่นๆ ที่จัดส่งจากสำนักเครื่องจักรกลส่วนกลางลงเข้าสนับสนุนพื้นที่เพิ่มเติมนั้น ประกอบด้วย เครื่องสูบน้ำ 1,935 เครื่อง รถสูบน้ำ 258 คัน เครื่องผลักดันน้ำ 527 เครื่อง รถขุด 499 คัน เรือขุด 69 ลำ รถบรรทุก 511 คัน รถบรรทุกน้ำ 106 คัน รถแทรกเตอร์ 565 คัน เครื่องจักรกลสนับสนุนอื่นๆ 373 เครื่อง

และสะพานเหล็กแบบถอดประกอบได้ยาว 44 เมตร 7 อัน พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการตามพื้นที่ที่ประสบภัยแล้ง เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับสถานการณ์น้ำในเขื่อนขนาดใหญ่ในภาคเหนือ ณ วันที่ 8 มี.ค. พบว่า 2 เขื่อนหลักพบว่ามีปริมาณน้ำใช้การได้รวม 6,800 ล้านลบ.ม. โดยเขื่อนภูมิพล มีปริมาณน้ำใช้การได้ 3,790.72 ล้านลบ.ม. หรือคิดเป็น 28% ของความจุเขื่อน และเขื่อนสิริกิติ์ ปริมาณน้ำใช้การได้ 3,018.03 ล้านลบ.ม. หรือคิดเป็น 32% ของความจุเขื่อน

ส่วนเขื่อนขนาดใหญ่ 12 แห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือพบว่า มีปริมาณน้ำใช้การได้ 1,742.63 ล้านลบ.ม.หรือคิดเป็น 21% ของความจุเขื่อนทั้งหมด โดยเขื่อนอุบลรัตน์ มีปริมาณน้ำใช้การได้ 93.67 ล้านลบ.ม. หรือคิดเป็น 4% ของความจุเขื่อน ,เขื่อนสิรินธร มีปริมาณน้ำใช้การได้ 120.71 ล้านลบ.ม. หรือคิดเป็น 6% ของความจุเขื่อน ในขณะที่เขื่อนลำตะคอง มีปริมาณน้ำใช้การได้ 184.4 ล้านลบ.ม. หรือคิดเป็น 59% ของความจุเขื่อน

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า