“มาร์ค” ปัดแทงกั๊ก ! ย้ำจุดยืน ไม่เอา “ประยุทธ์-รบ.ทุจริต” ฉะ “บิ๊กตู่” ต้นตอความขัดแย้ง ประกาศตัวแกนนำตั้งรัฐบาล เตือน 250 ส.ว.เคารพเสียงปชช.
11 มี.ค.62-ที่พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า สำหรับจุดยืนไม่ร่วมรัฐบาลทุจริต และพรรคการเมืองที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะถือเป็นการสืบทอดอำนาจ โดยพรรคประชาธิปัตย์ประกาศตัวเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเพื่อรวบรวมเสียงข้างมาก โดยไม่ผูกมัดว่าพรรคจะต้องได้ ส.ส.อันดับหนึ่ง เพราะตามกติกาพรรคใดรวบรวมเสียงได้ก็ตั้งรัฐบาลได้ ดังนั้นหากพรรคพลังประชารัฐจะร่วมรัฐบาลกับพรรคประชาธิปัตย์ ก็ต้องไม่มี พล.อ.ประยุทธ์ เพราะเงื่อนไขที่จะทำให้เกิดความขัดแย้งมากที่สุดเป็นการสืบทอดอำนาจ ฉะนั้นพล.อ.ประยุทธ์ จึงกลายเป็นศูนย์กลางของเงื่อนไขความขัดแย้งมากที่สุดหลังเลือกตั้ง
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ส่วนที่หลายฝ่ายมองว่า พล.อ.ประยุทธ์จะช่วยดูแลบ้านเมืองไม่ให้เกิดความขัดแย้งได้นั้น ภายหลังการเลือกตั้งจะไม่มีมาตรา 44 เป็นเครื่องมือเหมือนช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ส่วนตัวมั่นใจว่า ฝ่ายความมั่นคงพร้อมจะดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยให้ลุล่วงไปด้วยดี ทั้งนี้ จากประสบการณ์การทำงานในอดีต ทำให้เรียนรู้ว่า ต้องเปลี่ยนแปลงแนวทางในการจัดการปัญหาความวุ่นวายอย่างไร และประกาศชัดว่าตนไม่เกรงใจ ดังนั้นหากตนเป็นนายกรัฐมนตรี จะบริหารจัดการไม่ให้เกิดความขัดแย้ง หากไม่สามารถรวบรวมเสียงข้างมากได้ พรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องเป็นฝ่ายค้าน
“จุดยืนของผมมีความชัดเจน ตรงกับอุดมการณ์ของพรรค ที่ยืนหยัดมา 70 กว่าปี ไม่ใช่การแทงกั๊ก เพราะหากไม่ตรงกับ 2 แนวทางนี้ คือไม่ร่วมกับรัฐบาลที่ทุจริต และสืบทอดอำนาจ ส่วนกรณีของพรรคเพื่อไทยก็แสดงให้เห็นว่า ไม่น่าจะมีอะไรที่เปลี่ยนแปลง เพราะจากปรากฎการณ์หลายอย่างในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา น่าจะมีคนที่สามารถครอบงำได้อยู่ ขณะที่พรรคพลังประชารัฐนั้น ยังนึกไม่ออกว่า เมื่อไม่มีพล.อ.ประยุทธ์แล้วจะเป็นอย่างไร เพราะผู้บริหารเขาทั้งหมด ไม่มีใครเป็น ส.ส.เลย”นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายอภิสิทธิ์ ยืนยันว่า การประกาศจุดยืนเพื่อประกาศตัวเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล ไม่ได้ประกาศตัวเป็นฝ่ายค้าน เพราะการเป็นรัฐบาลจะต้องมีเสียงข้างมากในการบริหารประเทศ ดังนั้นจึงย้ำว่า ส.ว. 250 คน ควรเคารพการตัดสินใจของประชาชน ซึ่งขณะนี้ทุกพรรคการเมืองก็เห็นด้วยตามแนวทางนี้ ยกเว้นพรรคพลังประชารัฐ แต่สิ่งที่น่ากังวลงใจในเส้นทางการเป็นนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องพึ่งพาพรรคการเมืองที่สนับสนุน ซึ่งเห็นแล้วว่าขณะนี้ไม่สามารถควบคุมได้ ทั้งนโยบายเรื่อง สปก. และนโยบายข้าว ที่ขัดกับจุดยืนของ พล.อ.ประยุทธ์