ครม.ไฟเขียวยื่น “โนรา” จดทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ต่อยูเนสโก ระบุเป็นศิลปะการแสดงร่ายรำที่มีชีวิตงดงาม เครื่องแต่งกายวิจิตรประณีต สืบทอดจากความเชื่อและพิธีกรรม
เมื่อวันที่ 12 มี.ค.62 พ.อ.อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุม ครม.อนุมัติตามที่กระทรวงวัฒนธรรม เสนอโนราให้เป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ของมนุษยชาติ ต่อองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรม แห่งสหประชาชาติ หรือ “ยูเนสโก” ซึ่งก่อนหน้านี้ กระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) ได้เสนอ โขน และนวดไทยขึ้นบัญชีในรายการดังกล่าวไปแล้ว โดยโขนได้รับการขึ้นบัญชีแล้ว ส่วนนวดไทยอยู่ระหว่างการพิจารณาภายในปีนี้
สำหรับโนรา เอกสารดังกล่าวได้มีการจัดทำให้เป็นไปตามที่ยูเนสโกกำหนด และให้พิจารณาโดยมีสาระสำคัญคือ ชื่อของการนำเสนอ ภายใต้ชื่อ โนรา หรือ โนรา แดนซ์ ดรามา ไทยแลนด์ หรือ โนรา แดนซ์ ดรามา เซาท์เทิร์น ไทยแลนด์ รวมถึงชื่อชุมชน คณะ กลุ่มบุคคล ปัจเจกบุคคลที่เกี่ยวข้องซึ่งประเทศไทย มีสายตระกูลหลักที่สืบทอดโนรา 5 สาย ทั้งสายโนราพุ่มเทวา / สายโนราแปลกท่าแค / สายโนราแป้นเครื่องงาม / สายโนราเติมวินวาด และโนรายกทะเลน้อย 274 คณะ ใน 4 จังหวัดลุ่มน้ำทะเลสาปสงขลา พัทลุง ตรัง นครศรีธรรมราช และสงขลา
ทั้งนี้ ทางกระทรวงวัฒนธรรมได้แจ้งเพิ่มเติมว่า การขึ้นบัญชีครั้งนี้ จะเป็นการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศ และรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของประเทศไทย ให้มีความเข้มแข็งมากขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น และแสดงให้เห็นว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่เห็นคุณค่าของชนกลุ่มน้อย และชุมชน ในระดับนานาชาติ
ด้าน นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) กล่าวว่า ครม.เห็นชอบให้ อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) ฐานะเลขานุการคณะกรรมการส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม เป็นผู้ลงนามในเอกสารนำเสนอโนราในฐานะตัวแทนประเทศไทย เพื่อขึ้นบัญชีเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ฯ เนื่องจากตามอนุสัญญาว่าด้วยการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้กำหนดให้รัฐภาคีนำเสนอรายการมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ภายในเดือนมีนาคมทุกปีและจะใช้เวลาพิจารณารายการอย่างน้อย 1 ปีและต้องนำเสนอต่อคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลในการประชุมสมัชชาสมัยสามัญ โดยปี 2562 คณะกรรมการระหว่างรัฐบาลกำหนดประชุมสมัชชาสมัยสามัญครั้งที่ 14 วันที่ 9 -14 ธ.ค. 2562 ณ กรุงโบโกตา สาธารณรัฐโคลัมเบีย
ส่วน “โนรา”จะเข้าสู่การพิจารณาขึ้นบัญชีในรอบปี 2563 สำหรับเหตุผลที่นำเสนอ โนรา เนื่องจากเป็นศิลปะการแสดงการร่ายรำที่มีชีวิตงดงาม ขับร้องโดยใช้ภาษาไทยถิ่นใต้ พร้อมกับดนตรีประกอบจังหวะที่เร้าใจ และเครื่องแต่งกายที่วิจิตรประณีต มีรากสืบทอดมาจากความเชื่อและพิธีกรรมของชุมชนในภาคใต้ ซึ่งผู้สืบเชื้อสายโนราจะรวมตัวกันเพื่อบวงสรวง เซ่นไหว้ครูหมอโนราหรือบรรพบุรุษ และเพื่อขจัดปัดเป่าวิญญาณชั่วร้าย พิธีกรรมโนรานั้นเป็นการเชื่อมต่อชุมชนกับบรรพบุรุษ และสืบทอดโนรารุ่นใหม่รวมถึงรักษาความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับบุคคลและชุมชนและช่วยอำนวยอวยพรให้แก่ผู้เข้าร่วมพิธี