“อิทธิพร” แจงโต๊ะจีนระดมทุน”พปชร.” ไร้หน่วยงานรัฐบริจาค แย้มวินิจฉัยสถานะ “บิ๊กตู่” ไม่เกินพรุ่งนี้
13 มี.ค.62-เวลา 09.00 น. ที่ห้องประชุม 203 โรงแรมเซ็นทรา บาย เซ็นทารา ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เป็นประธานในพิธีเปิดพร้อมด้วย กรรมการ กกต. เลขาธิการ กกต. เข้าร่วมพิธีเปิดหลักสูตร “ปฐมนิเทศพนักงานสืบสวนและไต่สวน และนิติกรระดับปฏิบัติการ พ.ศ.2562” โดยนายอิทธิพร กล่าวว่า กกต.มุ่งหวังให้พนังงานมีความพร้อมก่อนการปฏิบัติหน้าที่ โดยหลักสูตรที่จัดไว้ได้บูรณาการความรู้ทุกส่วน ซึ่งทุกคนต้องเข้าใจวัฒนธรรมองค์กรและค่านิยมร่วมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน การอบรมใน 3 วันนี้ขอให้ทุกคนเก็บเกี่ยวความรู้ในระเบียบ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการปฏิบัติตนในฐานะพนักการสืบสวน เพื่อนำไปสร้างองค์ความรู้เพิ่มเติม ขณะนี้กกต.กำลังจัดการเลือกตั้ง ซึ่งทุกคนต้องมีส่วนร่วมครั้งสำคัญ จึงขอให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยเกียรติภูมิต่อการเป็นพนังงานของรัฐต่อไป
จากนั้นนายอิทธิพร ให้สัมภาษณ์ถึงผลการตรวจสอบคำร้องการจัดโต๊ะจีนระดมทุนของพรรคพลังประชารัฐว่า ขณะนี้ทราบว่านายทะเบียนกกต. กำลังทำหนังสือแจ้งผู้ร้องและพรรคพลังประชารัฐ ขณะเดียวกันจะมีหนังสือให้ กรรมการ กกต.รับทราบในผลการพิจาณาว่าเป็นอย่างไรในวันนี้หรือพรุ่งนี้ ส่วนผลพิจารณาเบื้องต้นเป็นอย่างไรยังไม่ได้รับรายงานอย่างเป็นทางการ ขณะที่ประเด็นที่ผู้ร้องให้ตรวจสอบหน่วยงานรัฐบริจาคเงินหรือไม่นั้น ประเด็นนี้เข้าใจว่ายังอยู่ระหว่างการตรวจสอบของสำนักงาน กกต. โดยยังไม่เสนอมาที่ กรรมการ กกต. แต่ที่เลขาธิการ กกต.ตรวจสอบเป็นเรื่องว่าเงินบริจาคจากต่างชาติหรือไม่ ก็พบว่าไม่มีการบริจาคจากต่างชาติ แต่ทั้งหมดอยู่ที่คำร้องที่เข้ามา หากคำถามไม่เหมือนกันก็ต้องแยกประเด็นคำถามออกไป แต่การระดมทุนวันที่ 19 ธ.ค.2561 เบื้องต้นได้รับทราบจาก เลขาธิการ กกต.ว่าเป็นการบริจาคโดยบุคคล แต่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยเลขาธิการ กกต. จะแจ้งให้กรรมการ กกต.อีกครั้ง
เมื่อถามว่า กรณีที่อาจมีหน่วยงานเอกชนที่บริจาคแล้วได้งานจากหน่วยงานรัฐจะตรวจสอบหรือไม่ ประธานกกต. กล่าวว่า รายละเอียดต่างๆ ต้องถาม เลขาธิการ กกต. ส่วนการวินิจฉัยสถานะพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐนั้นเรื่องจะเข้ามาในที่ประชุม กรรมการการเลือกตั้งในวันนี้หรือพรุ่งนี้ ซึ่งทุกกรณีจะต้องดำเนินการให้เร็วที่สุด และอยากให้แล้วเสร็จก่อนวันที่ 24 มี.ค. ทั้งนี้ การดำเนินการตรวจสอบคำร้องขอกกต. ทุกเรื่องจะดำเนินการให้เร็วสุด แต่ในบางเรื่องอาจด่วนไม่เท่ากัน เพราะต้องดูเอกสารหลักฐานก่อน ไม่ได้พิจารณาว่าเรื่องไหนต้องทำช้าหรือทำเร็ว เพราะต้องปฏิบัติตามวาระและเวลาที่มี