ศาลปกครองสุงสุด ระงับคำสั่งทุเลาการบังคับจำกัดนักท่องเที่ยวขึ้น “เกาะสิมิลัน” ชี้ชัด ไม่มีมาตรการป้องกัน ปล่อยนักท่องเที่ยวเข้าเกินความสามารถที่อุทยานฯ รองรับได้ ส่งผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อม ยากที่จะแก้ไขหรือฟื้นให้กลับมีสภาพดีดังเดิม
ศาลปกครองสูงสุด มีคำสั่งคำร้องที่ 44/2562 ในคดีที่ นายนิพนธ์ สมเหมาะ ฟ้องกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช และอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ขอเพิกถอนประกาศคำสั่งลงวันที่ 9 ต.ค.2561 เรื่อง การกำหนดจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้าไปใน อุทยานแห่งชาติ”หมู่เกาะสิมิลัน” และประกาศลงวันที่ 9 ต.ค.2561 เรื่อง กำหนดอัตราค่าบริการ สำหรับยานพาหนะประเภทเรือที่เข้าไปในอุทยานแห่งชาติ”หมู่เกาะสิมิลัน”และมีคำขอให้ศาลทุเลาการบังคับตามประกาศทั้งสองฉบับ ซึ่งศาลปกครองภูเก็ตได้มีคำสั่งทุเลาการบังคับ ตามประกาศ ลงวันที่ 9 ต.ค.2561 เรื่องการกำหนดจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้าไปในอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน ตามคำขอของผู้ฟ้องคดีตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.- 31 มี.ค.2562 ไว้เป็นการชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเป็นอย่างอื่น
ทั้งนี้ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช และอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้อุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดและมีคำขอให้ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งระงับคำสั่งของศาลปกครองภูเก็ตไว้เป็นการชั่วคราวจนกว่าศาลปกครองสูงสุดจะมีคำสั่งอุทธรณ์
ศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยว่า ผู้ฟ้องคดีไม่ได้โต้แย้ง ว่าอุทยานแห่งชาติ“หมู่เกาะสิมิลัน” มีขีดความสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้มากกว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่อวันตามประกาศพิพาท อีกทั้งยังยอมรับว่า มีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังมีปัญหาอื่นที่เกิดจากกิจกรรมท่องเที่ยวจึงเป็นที่เห็นได้อย่างแน่ชัด ว่าหากไม่ได้มีการกำหนดมาตรการป้องกันล่วงหน้าปล่อยให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามามากขึ้น ย่อมเป็นการเกินขีดความสามารถที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันจะรองรับได้ ส่งผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อม ระบบนิเวศน์ทรัพยากรธรรมชาติและสภาพธรรมชาติ ยากที่จะแก้ไขหรือฟื้นฟูให้กลับมีสภาพดีดังเดิมได้อีกในภายหลัง
ดังนั้น การที่ศาลปกครองภูเก็ตมีคำสั่งทุเลาการบังคับตามประกาศจะทำให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อประโยชน์สาธารณะตามข้อ 115 แห่งระเบียบของที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุดว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2543 จึงมีคำสั่งระงับคำสั่งทุเลาดังกล่าวของศาลปกครองภูเก็ตไว้เป็นการชั่วคราว จนกว่าศาลปกครองสูงสุดจะมีคำสั่งอุทธรณ์ของผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสอง