“เรืองไกร” ยื่น กกต.อีก ค้านนำความเห็นผู้ตรวจฯ ประกอบคำร้อง วินิจฉัยคุณสมบัติ “บิ๊กตู่”
15 มี.ค.62-นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) เดินทางมาที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อยื่นหนังสือถึง กกต.คัดค้านการนำคำวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดิน มาประกอบการพิจารณาคุณสมบัติ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช.ว่าเข้าข่ายเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐหรือไม่ โดยนายเรืองไกร กล่าวว่า ผู้ตรวจการแผ่นดินไม่ใช่ผู้ตีความกฎหมาย จึงจะวินิจฉัยกรณีดังกล่าวไม่ได้ เพราะต้องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้ตีความ ซึ่งตนมีหลักฐานคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญล่าสุด เมื่อวันที่ 27 ก.พ.2562 กรณีนายรังสิมันต์ โรม ขัดคำสั่งคณะมนตรีความมั่นคงของชาติ (คมช.) โดยไม่ยอมพิมพ์ลายนิ้วมือ
นายเรืองไกร กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ศาลได้วินิจฉัยว่าคำสั่งของ คมช.ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ เพราะไม่สามารถใช้บังคับหลังการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ ซึ่งกรณีนี้เป็นข้อพิสูจน์ที่ผู้ตรวจการแผ่นดินอาจไม่ได้นำมาประกอบการพิจารณา ในความเห็นของตน พล.อ.ประยุทธ์ในฐานะหัวหน้า คสช. มีอำนาจรัฏฐาธิปัตย์ อยู่เพียงแค่ 2 เดือน ระหว่างวันมี่ 22 พ.ค. – 22 ก.ค.2557 เท่านั้น เพราะรัฐธรรมนูญชั่วคราว มีผลบังคับใช้และให้อำนาจพล.อ.ประยุทธ์ในการใช้มาตรา 44 โดยกำหนดให้ต้องรายงานประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งในประเด็นนี้จึงโต้แย้งคำวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐ
“การที่ผู้ตรวจฯนำคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ 5/43 ที่วินิจฉัยเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่ไม่สามารถลงสมัคร ส.ว.ได้มาวินิจฉัยว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่เข้าลักษณะ 4 ประการการ ในการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ เป็นการนำคำวินิจฉัยมาเฉพาะบางส่วนเท่านั้น เพราะข้อเท็จจริงยังได้มีการวินิจฉัยถึงบางตำแหน่งที่ยังไม่ได้มีการกำหนดเอาไว้ตามกฎหมาย ว่าเข้าข่ายว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ เรื่องนี้ผมไม่แย้งผู้ตรวจฯ เพราะผู้ตรวจฯ ไม่มีอำนาจที่จะวินิจฉัยเรื่องนี้ แต่คัดค้านที่ กกต.จะนำคำวินิจฉัยของผู้ตรวจฯมาประกอบการพิจารณาในประเด็นคุณสมบัติพล.อ.ประยุทธ์ที่ผมยื่นคำร้อง”นายเรืองไกรกล่าว
นายเรืองไกร กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ยังมีคำพิพากษาของศาลฎีกาในคดีของนายสมบัติ บุญงานอนงค์ ที่ไม่ไปรายตัวตามคำสั่งหัวหน้า คสช. โดยนายสมบัติต่อสู้ว่า ไม่ไปรายงานตัว เพราะ คสช.ไม่ใช่เจ้าพนักงานของรัฐ แต่ศาลฎีกาก็วินิจฉัยว่าหัวหน้า คสช.เป็นเจ้าพนักงานของรัฐ ดังนั้น ตนจึงนำคำพิพากษาของศาลมายื่นให้ กกต.พิจารณาอีกครั้ง