สถานการณ์หมอกควันภาคเหนือ รุนแรงต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 “คพ.” เตือนประชาชน 12 พื้นที่ “สีแดง” เฝ้าระวังอาการผิดปกติ
เมื่อวันที่ 16 มี.ค. กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) รายงานสถานการณ์หมอกควันภาคเหนือ ประจำวันที่ 16 มี.ค.2562 ณ เวลา 09.00 น. พบว่า ค่าฝุ่นละอองลดลงจากเมื่อวาน (15 มี.ค.) เมื่อเปรียบเทียบในช่วงเวลาเดียวกัน คุณภาพอากาศมีค่าอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง-มีผลกระทบต่อสุขภาพ
โดยพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นสีแดง 12 พื้นที่ (คุณภาพอากาศมีผลกระทบต่อสุขภาพ) ได้แก่
-ต.เวียง อ.เมือง จ.เชียงราย ปริมาณฝุ่นละออง PM 2.5 อยู่ที่ 161 มคก./ลบ.ม.
-ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ปริมาณฝุ่นละออง PM 2.5 อยู่ที่ 220 มคก./ลบ.ม. และมีค่าฝุ่นลอองอยู่ในระดับสีแดงเป็นวันที่ 6
-ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ปริมาณฝุ่นละออง PM 2.5 อยู่ที่ 172 มคก./ลบ.ม.
-ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ปริมาณฝุ่นละออง PM 2.5 อยู่ที่ 156 มคก./ลบ.ม.
-ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง ปริมาณฝุ่นละออง PM 2.5 อยู่ที่ 111 มคก./ลบ.ม.
-ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ปริมาณฝุ่นละออง PM 2.5 อยู่ที่ 114 มคก./ลบ.ม.
-ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.ลำพูน ปริมาณฝุ่นละออง PM 2.5 อยู่ที่ 130 มคก./ลบ.ม.
-ต.จองคำ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ปริมาณฝุ่นละออง PM 2.5 อยู่ที่ 95 มคก./ลบ.ม.
-ต.ในเวียง อ.เมือง จ.น่าน ปริมาณฝุ่นละออง PM 2.5 อยู่ที่ 158 มคก./ลบ.ม.
-ต.ห้วยโก๋น อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน ปริมาณฝุ่นละออง PM 2.5 อยู่ที่ 156 มคก./ลบ.ม.
-ต.นาจักร อ.เมือง จ.แพร่ ปริมาณฝุ่นละออง PM 2.5 อยู่ที่ 97 มคก./ลบ.ม.
– ต.บ้านต๋อม อ.เมือง จ.พะเยา ปริมาณฝุ่นละออง PM 2.5 อยู่ที่ 195 มคก./ลบ.ม.
ส่วนพื้นที่สีส้มมีอยู่ที่ 4 พื้นที่ (คุณภาพอากาศเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ) และพื้นที่สีเหลืองมี 1 พื้นที่ (คุณภาพอากาศปานกลาง)
ทั้งนี้ กรมควบคุมมลพิษขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่ งดการเผาในที่โล่งเพื่อป้องกันการเพิ่มสูงขึ้นของฝุ่นละอองอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ประชาชนอยู่ในพื้นที่ที่ปริมาณฝุ่นละอองมีผลกระทบต่อสุขภาพ ขอให้หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายและการทำกิจกรรมกลางแจ้ง สวมใส่หน้ากากป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก
ประชาชนทั่วไปและกลุ่มเสี่ยงควรเฝ้าระวังสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอบ่อย หายใจลำบาก หายใจถี่ หายใจไม่ออก ใจมีเสียงวี้ด ใจสั่น คลื่นไส้ วิงเวียนศีรษะ แน่นหน้าอก ให้รีบพบแพทย์ ผู้มีโรคประจำตัวควรเตรียมยาและอุปกรณ์ที่จำเป็นอย่างน้อย 5 วัน ทั้งนี้ สามารถติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศได้ทางเว็บไซต์ http://air4thai.pcd.go.th และแอพลิเคชั่น air4thai