“ประธาน กกต.” สรุปยอดใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า 86 % พบเหตุเข้าข่ายทุจริต “ขโมยบัตร-ลงคะแนนแทน-ใส่ร้าย” กำชับนำข้อผิดพลาดเร่งแก้ไข เตรียมพร้อมวันที่ 24 มี.ค.
18 มี.ค.62-นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) กล่าวสรุปผลการเลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อวันที่ 17 มี.ค. ว่า สำหรับจำนวนผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิ 2.6 ล้านคนมีผู้ออกมาใช้สิทธิคิดเป็นร้อยละ 86.98 และมีหลายแห่งใช้สิทธิเกินกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ โดยระหว่างการลงคะแนนเสียงตลอดทั้งวัน กกต.ได้รับรายงานเหตุที่อาจมีการทุจริตเลือกตั้ง 3 จังหวัด ประกอบด้วย 1.จ.สมุทรสงคราม ที่มีผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งแอบนำบัตรเลือกตั้งไปทั้งเล่ม เพื่อไปทำเครื่องหมานกากบาทให้กับผู้สมัครพรรคการเมืองหนึ่ง แต่ กกต.ได้เจาะทำลายบัตรเลือกตั้งทั้งเล่มไปเรียบร้อยแล้ว พร้อมส่งบัตรเลือกตั้งชุดใหม่ไปแทนบัตรที่ทำลาย และแจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจท้องที่ไปแล้วเช่นกัน 2.จ.อุทัยธานี พบว่ามีผู้นำบัตรประชาชนของผู้มีสิทธิเลือกตั้งจากผู้อื่นไปลงคะแนน ซึ่งกกต.ได้แจ้งความดำเนินคดีกับผู้กระทำดังกล่าวแล้ว และ 3.จ.กาฬสินธุ์ ในเขตเลือกตั้งที่ 2 มีการทำเอกสารปลอมขึ้นมาว่าผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งได้ประกาศไม่รับสมัครจากผู้สมัครจากพรรคการเมืองหนึ่ง ต่อมาได้รับรายงานจากผู้สมัครรายนั้นร้องเรียนว่า ภายในพื้นที่เขตเลือกตั้งไม่มีการติดประกาศป้ายหาเสียง แต่ กกต.ก็ได้สอบสวนเบื้องต้นพบว่า ป้ายหาเสียงของผู้สมัครรายนั้นยังมีอยู่ ส่วนการตรวจสอบว่าไม่รับสมัครเลือกตั้งก็เป็นเอกสารปลอม จึงได้นำผู้สมัครรายนั้นไปแจ้งความที่สถานีตำรวจด้วย
นายอิทธิพร กล่าวด้วยว่า ขณะเดียวกันกกต.ได้รับรายงานมา ว่ามีการแจกบัตรเลือกให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปผิดเขต คณะกรรมการประจำสถานที่เลือกตั้งจึงได้แก้ไขโดยจ่ายบัตรเลือกตั้งให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งอย่างถูกต้องแล้ว ภายหลังได้รับการทักท้วง ส่วนบางเขตที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้ลงคะแนนในบัตรที่แจกจ่ายไปผิดเขตนั้น ในกรณีนี้ไม่สามารถนำบัตรลงคะแนนที่ใส่ไว้ในหีบออกมาได้ จึงได้ให้กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งบันทึกเหตุการณ์ไว้ ส่วนกรณีไม่มีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้ลงทะเบียนขอเลือกตั้งล่วงหน้านั้น คณะกรรมการในเขตเลือกตั้งได้ตรวจสอบหลักฐานผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ลงทะเบียนไว้ หากมีหลักฐานถูกต้องก็ให้เพิ่มชื่อให้สามารถใช้สิทธิเลือกตั้งได้ต่อไป นอกจากนี้พบว่า แอพพลิเคชั่นสมาร์ทโหวต ไม่สามารถใช้งานได้ในระยะเวลา 08.30 น. และได้ปรับปรุงเซิร์ฟเวอร์เป็นเวลา 15 นาที จนสามารถใช้งานได้ตามปกติ
“ในข้อผิดพลาดและบกพร่องเหล่านี้จะซักซ้อมความเข้าใจกับผู้ปฏิบัติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเหล่านี้ซ้ำซ้อนขึ้นอีกในวันที่ 24 มี.ค. ส่วนการลงคะแนนตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. นั้น หากผู้มีสิทธิเลือกตั้งเข้ามาในเขตเลือกตั้งภายใน 17.00 น.แล้ว ยังถือว่าลงคะแนนได้ เพราะถือว่าได้แสดงเจตจำนงค์ก่อนเวลา 17.00 น.ไปแล้ว ส่วนหน่วยเลือกตั้งโรงเรียนบ้านบางกะปิ ซึ่งเป็นหน่วยที่มีผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิมากที่สุดกว่า 61,401 คน ก็สามารถบริหารจัดการและอำนวยความสะดวกให้ผู้มีสิทธิได้ใช้สิทธิเรียบร้อย และมีการปิดหีบเลือกตั้งเวลา 18.00 น. ซึ่งถือว่าทำได้เป็นที่น่าพอใจ ด้านการเปลี่ยนแปลงสถานที่เลือกตั้งกลาง ได้มีการแจ้งเตือนในทุกช่องทางทั้งทางสมาร์ทโหวต รถกระจายเสียงในพื้นที่ รวมถึงคัทเอาท์หน้าสถานที่เลือกตั้งเดิม มีเพียงแห่งเดียวที่เปลี่ยนแปลงกระทันหันคือหน่วยเลือกตั้งล่วงหน้าที่จ.ชลบุรี เนื่องจากฝนตกหนัก จึงมีการย้ายหน่วยไปตั้งในจุดใกล้เคียงกับหน่วยเลือกตั้งเดิม”ประธาน กกต. ระบุ