สัญญาน้ำมันดิบ WTI พุ่ง 1% ปิดที่ 59.09 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติสูงสุดในรอบ 4 เดือน ขานรับกลุ่มโอเปกและพันธมิตรส่งสัญญาณลดกำลังผลิตถึงสิ้นปี
เมื่อคืนวันจันทร์ (18 มี.ค.) สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนเม.ย. ปิดที่ 59.09 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.57 เหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้น 1% และสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ งวดส่งมอบเดือนพ.ค. ปิดที่ 67.54 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.38 เหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้น 0.6%
สัญญาซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้าปรับตัวเพิ่มขึ้นในรอบ 4 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 12 พ.ย.2561 หลังกลุ่มโอเปกและกลุ่มนอกกลุ่มโอเปก ส่งสัญญาณเดินหน้าลดกำลังการผลิต โดยนายคาลิด อัล-ฟาลีห์ รมว.พลังงานซาอุดีอาระเบีย ระบุว่า กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันจำเป็นต้องปรับลดกำลังการผลิตต่อไปจนถึงช่วงครึ่งปีหลัง เนื่องจากสต็อกน้ำมันยังคงเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ นักลงทุนยังคงจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยรายงานดังกล่าวในวันพรุ่งนี้ (20 มี.ค.) เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย
อย่างไรก็ตาม ความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกได้สร้างแรงกดดันให้กับราคาน้ำมัน ซึ่งล่าสุดทางการญี่ปุ่นเปิดเผยว่าตัวเลขส่งออกของญี่ปุ่นในเดือนก.พ.ลดลง และลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 โดยนักวิเคราะห์จาก Bernstein Energy คาดการณ์เศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวอาจทำให้ความต้องการน้ำมันเติบโตต่ำกว่า 1 ล้านบาร์เรล/วัน
ด้านบมจ.ไทยออยล์รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมันประจำวันที่ 19 มี.ค. ว่า ราคาน้ำมันดิบ WTI และเบรนท์ปรับเพิ่ม หลังกลุ่มโอเปก (OPEC) และประเทศพันธมิตร มีแนวโน้มที่จะยืดข้อตกลงในการลดกำลังการผลิตจากเดือน มิ.ย. ออกไปถึงครึ่งหลังของปี โดยได้ยกเลิกการประชุมในเดือน เม.ย. และเลื่อนไปประชุมในวันที่ 25-26 มิ.ย.
ทั้งนี้ มติการประชุมดังกล่าว จะขึ้นอยู่กับผลกระทบที่สหรัฐคว่ำบาตรอิหร่านและเวเนซุเอลาด้วย
ขณะที่การส่งออกน้ำมันดิบของซาอุดิอาระเบียปรับลดลงจาก 7.7 ล้านบาร์เรล/วัน ในเดือน ธ.ค.2561 เหลือ 7.3 ล้านบาร์เรล/วัน ในเดือน ม.ค. 2562 เนื่องจากการผลิตน้ำมันดิบปรับลดลงและการใช้ในประเทศเพิ่มมากขึ้น
ส่วนผลสำรวจจากรอยเตอร์ คาดปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ สิ้นสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีแนวโน้มปรับลดลงราว 800,000 บาร์เรล แต่การผลิตน้ำมันดิบจากแหล่งชั้นหินดินดาน (Shale Oil) ขนาดใหญ่ 7 แห่งในสหรัฐ มีแนวโน้มปรับเพิ่มเป็น 8.59 ล้านบาร์เรล/วัน ในเดือน เม.ย. 2562 หากอัตราการผลิตน้ำมันดิบยังคงปรับเพิ่มแบบคงที่