นายประลอง ดำรงค์ไทย อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า สถานการณ์หมอกควันภาคเหนือ พบว่า คุณภาพอากาศมีค่าอยู่ในเกณฑ์คุณภาพอากาศปานกลาง–มีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นสีแดง 5 พื้นที่ (มีผลกระทบต่อสุขภาพ)
ประกอบไปด้วย
1. ต.เวียง อ.เมือง เชียงราย 102 มคก./ลบ.ม.
2. ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย เชียงราย 168 มคก./ลบ.ม.
3.ต.ช้างเผือก อ.เมือง เชียงใหม่ 86 มคก./ลบ.ม.
4. ต. ศรีภูมิอ.เมือง เชียงใหม่ 81 มคก./ลบ.ม.
5. ต.สุเทพ อ.เมือง เชียงใหม่ 58 มคก./ลบ.ม.
พื้นที่สีส้ม 10 พื้นที่ (เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ) และพื้นที่สีเหลือง 2 พื้นที่ (คุณภาพอากาศปานกลาง) PM2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่าระหว่าง 45 -183 มคก./ลบ.ม. (มาตรฐานไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม.) ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 10 ไมครอน PM10 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่าระหว่าง 65- 241 มคก./ลบ.ม. (มาตรฐานไม่เกิน 120 มคก./ลบ.ม.)
อย่างไรก็ตาม จากค่าคุณภาพอากาศของ จ. เชียงใหม่ ที่สูงเป็นอันดับหนึ่งของโลกตั้งแต่เมื่อวานนี้ เป็นสาเหตุให้สังคมออนไลน์มีการตื่นตัวเป็นจำนวนมากรวมถึงมีการเรียกร้องให้มีมาตรการการแก้ไขสถานการณ์หมอกควันและไฟป่าจากภาครัฐ
ทั้งนี้ คพ. ขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่งดการเผาในที่โล่งเพื่อป้องกันการเพิ่มสูงขึ้นของฝุ่นละอองอย่างต่อเนื่องอย่างไรก็ตามในกรณีที่ประชาชนอยู่ในพื้นที่ที่ปริมาณฝุ่นละอองมีผลกระทบต่อสุขภาพขอให้หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายและการทำกิจกรรมกลางแจ้งสวมใส่หน้ากากป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็กประชาชนทั่วไปและกลุ่มเสี่ยงควรเฝ้าระวังสังเกตอาการผิดปกติเช่นไอบ่อยหายใจลำบากหายใจถี่หายใจไม่ออกหายใจมีเสียงวี้ดใจสั่นคลื่นไส้วิงเวียนศรีษะแน่นหน้าอกให้รีบพบแพทย์
ผู้มีโรคประจำตัวควรเตรียมยาและอุปกรณ์ที่จำเป็นอย่างน้อย 5 วัน และสามารถติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศได้ทางเว็บไซต์ https://air4thai.pcd.go.th และแอพลิเคชั่น air4thai และติดตามข่าวสารการดำเนินงานแก้ไขปัญหาหมอกควัน 9 จังหวัดภาคเหนือได้ทาง www.pcd.go.th.