“ปิยบุตร” ชู 3 นิ้วเข้าพบ “ปอท.” แล้ว ไม่หวั่นถูกคสช.ฟ้อง 2 คดี ยันคำแถลงไม่มีถ้อยคำดูหมิ่นแน่ ด้านกองเชียร์ให้กำลังใจคึกคัก พบ UNOCHR ร่วมสังเกตการณ์ด้วย
17 เม.ย.62-เวลา 10.10 น. นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ พร้อมฝ่ายกฎหมายเดินทางมาที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(บก.ปอท.) เพื่อเข้ารายงานตัวและรับทราบข้อกล่าวหาต่อพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกกรณีพ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ ฝ่ายกฎหมายคณะรักษาความสงบ(คสช.) ยื่นฟ้องในความผิดอาญา 2 ข้อหาประกอบด้วย 1. ดูหมิ่นศาล และ2.นำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ จากคำแถลงการณ์ยุบพรรคไทยรักษาชาติ
โดยก่อนถึงเวลานัดหมายมีแกนนำพรรคอนาคตใหม่ อาทิ พล.ท.พงศกร รอดชมภู รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ นางสาวพรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ นายรังสิมันต์โรมผู้ช่วยเลขาธิการพรรค น.ส.สาวิตรี สันติพิริยพร ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรค และยังพบน.ส.ณัฏฐา มหัทธนา เดินทางมาที่ ปอท. โดยมีผู้สนับสนุนพรรคอนาคตใหม่จำนวนมากเดินทางมามอบดอกไม้เพื่อให้กำลังใจพร้อมตะโกนสู้ๆ ให้นายปิยบุตรด้วย โดยนายปิยบุตรได้แสดงสัญลักษณ์ด้วยชูสาวนิ้ว และขอขอบคุณผู้สนับสนุนทุกๆคนที่มาให้กำลังใจในวันนี้ โดยระบุกับผู้สนับสนุนว่าเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย เพื่อนำความยุติธรรมและความก้าวหน้ากลับคืนสู่สังคม
จากนั้นนายปิยบุตร ได้มาถึงปอท. ซึ่งอยู่บริเวณชั้น4 ของศูนย์ราชการ โดยให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าพบพนักงานสอบสวนว่า มั่นใจกระบวนการยุติธรรมและการรักษาความยุติธรรมให้สังคมตนสอนกฎหมายมา 16 ปี แต่วันนี้ไม่คิดว่าตัวเองจะเป็นผู้ต้องหา เมื่อมาทำงานการเมืองได้ไม่ถึง 1 ปี ที่ผ่านมาเคยเดินทางมาที่ศูนย์ราชการเพื่อบรรยายหลายครั้ง ขณะที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรรอนาคตใหม่ ก็ได้คุยกันตั้งแต่เมื่อคืนถึงเวลา02.00 น. โดยเชื่อว่าการมีคดีต่างๆ เป็นอุปสรรคที่ต้องต่อสู้เพื่อนำประชาธิปไตยกลับมา เพราะได้คาดเดาแล้วว่าเรื่องแบบนี้ต้องเกิดขึ้น ยืนยันมั่นใจในกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทยให้ทุกคนเท่าเทียมกัน
“ผมไม่กังวลข้อกล่าวหา เพราะสิ่งที่แถลงสมัยเป็นนักวิชาการ ก็วิจารณ์คำวินิจฉัยของศาลเป็นปกติอยู่แล้ว แต่เมื่อเป็นนักการเมืองก็ถูกกล่าวโทษ ยืนยันว่าในคำแถลงไม่มีถ้อยคำให้ดูหมิ่นเกลียดชังเลย แต่จะขอดูข้อเท็จจริงก่อนว่ามีพล.อ.ท่านใดมอบอำนาจให้มากล่าวโทษครั้งนี้“นายปิยบุตรกล่าว
จากนั้นเวลา13.25 น. นายปิยบุตรให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าพบพนักงานสอบสวนเป็นเวลา2 ชั่วโมงว่าได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาโดยจะทำเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อทำคำให้การเตรียมชี้แจงกับปอท.ในวันที่25 เม.ย. แต่พบว่าหลายข้อความที่แจ้งข้อกล่าวหานั้นไม่ตรงกับสิ่งที่เคยพูดไว้ ส่วนความผิดเรื่องดูหมิ่นศาลรัฐธรรมนูญ เริ่มจากคสช.ซึ่งหัวหน้า คสช. เป็นหนึ่งในแคนดิเดตนายกฯ คู่แข่งกันทางการเมืองกับพรรคอนาคตใหม่ แต่คสช.กลับมอบอำนาจให้บุรินทร์มากล่าวโทษ จึงตั้งเป็นข้อสังเกตเรื่องดูหมิ่นศาล เรื่องเริ่มต้นจาก คสช.และหัวหน้าคสช.เป็นคู่แข่ง
“แต่การตรวจสอบหรือการวิพากษ์วิจารณ์ถ้าเจ้าของอำนาจจะวิพากษ์วิจารณ์เป็นเรื่องปกติฝ่ายนิติบัญญัติส.ส. ส.ว.ก็ถูกบุคคลทั่วไปวิจารณ์อยู่เสมอดังนั้นองค์กรตุลาการก็ควรอยู่ในระนาบเดียวกันให้ประชาชนสามารถวิพากษ์วิจารณ์โดยเฉพาะศาลรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นศาลที่ตัดสินในเรื่องผลลบทางการเมืองยิ่งต้องสามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้ แต่กรณีนี้มาจากฐานความผิดศาลไปอยู่ในประมวลกฎหมายอาญาเป็นความผิดต่อแผ่นดินใครก็ได้สามารถไปร้องทุกข์กล่าวโทษให้หมดเรื่องนี้เปิดช่องทางในการร้องได้หมดจะเป็นปัญหาต่อไปถ้าคดีนี้เดินเรื่องต่อไปจะเป็นบรรทัดฐาน“นายปิยบุตร กล่าว
นายปิยบุตร กล่าวด้วยว่า ในเมื่อจะยืนหยัดเป็นนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งต้องทนได้ทุกอย่าง อยากฝากว่านักการเมืองที่จะมาจากการยึดอำนาจ ต้องอดอดทนอดกลั้นด้วยเหมือนกัน รวมทั้งองค์กรผู้ใช้อำนาจรัฐต้องอดทนอดกลั้นต่อการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง เราเป็นนักการเมืองจากการเลือกตั้งยังทนได้ นักการเมืองที่มาจากการยึดอำนาจก็ต้องทนให้ได้เช่นเดียวกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการเข้าให้รายงานตัวของนายปิยบุตรครั้งนี้ ได้พบเจ้าหน้าที่จากสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งองค์การสหประชาชาติ (UNOHCHR) และนางอังคณา นีละไพจิตร กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เข้ามาร่วมสังเกตการณ์ด้วย อย่างไรก็ตามภายหลังพนักงานสอบสวนสอบปากคำเเล้ว ปอท.ได้ปล่อยตัวนายปิยบุตรชั่วคราว โดยไม่ต้องวางหลักทรัพย์เนื่องจากเดินทางมาพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก